โทรศัพท์มือถือเต็มไปด้วยเชื้อโรค! ผู้เชี่ยวชาญเผยวิธีทำความสะอาดให้ปลอดภัยจากการติดเชื้อ

16 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 17:58 น.    59

โทรศัพท์มือถือเป็นอุปกรณ์ที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน แต่ก็อาจเป็นแหล่งรวมของแบคทีเรียและไวรัสที่เรานึกไม่ถึง โดยผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่าควรมีการทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการติดเชื้อและการเจ็บป่วยต่างๆ

จากรายงานของนิตยสาร Fortune พบว่างานวิจัยด้านสาธารณสุขหลายฉบับได้ศึกษาเกี่ยวกับความหนาแน่นของแบคทีเรียและจุลินทรีย์บนอุปกรณ์มือถือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2017 ที่มีการศึกษาเกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือของนักเรียนมัธยม พบว่ามีแบคทีเรียมากกว่า 17,000 ยีน ที่มีศักยภาพในการขยายพันธุ์ ซึ่งจำนวนยีนที่สูงขึ้น ย่อมหมายถึงความสามารถในการเติบโตของแบคทีเรียที่มากขึ้นตามไปด้วย

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอาริโซนาพบว่า โทรศัพท์มือถือสามารถมีจำนวนแบคทีเรียได้มากถึงสิบเท่าของที่นั่งโถส้วม โดยมีแบคทีเรียต่างๆ เช่น อีโคไล ซัลโมเนลล่า โนโรไวรัส สเตฟิโลคอคคัส รวมถึงไนเซอเรียกอนอเรีย และแบคทีเรียเหล่านี้สามารถเข้าสัมผัสกับผู้ใช้งานซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ดร.ซาก ประธานแผนกโรคติดเชื้อแห่งโรงพยาบาลเซนต์แนน ที่รัฐนิวเจอร์ซีย์ แนะนำว่า “หลายคนมีพฤติกรรมที่ไม่ดี เช่น การใช้โทรศัพท์มือถือระหว่างอยู่ในห้องน้ำ ซึ่งทำให้มือถือสัมผัสกับแบคทีเรีย จากนั้นก็นำมือถือไปเก็บไว้ในกระเป๋าหรือช่องต่างๆ ช่วยเสริมการเติบโตของแบคทีเรีย”

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้มีการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโทรศัพท์มือถือเพื่อกำจัดเชื้อโรค โดยวิธีที่แนะนำคือการใช้แอลกอฮอล์ไอโซโพรพิล 70% เช็ดที่ผิวเรียบของโทรศัพท์ก่อนจะใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดให้แห้ง

นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์บางตัวในท้องตลาดที่อ้างว่าสามารถฆ่าโนโรไวรัสหรือไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้ แต่ดร.ชูเมทเตรแนะนำให้คนใช้ต้องอ่านคำแนะนำบนฉลากสินค้าอย่างรอบคอบ เนื่องจากโดยมากแล้วผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อเหล่านี้ต้องใช้เวลาบนโทรศัพท์อย่างน้อย 3 ถึง 5 นาทีถึงจะมีประสิทธิภาพ ในขณะที่บางผลิตภัณฑ์อาจใช้เวลาเพียงหนึ่งนาทีก็เพียงพอแล้วในการฆ่าเชื้อ

อีกวิธีที่ควรพิจารณาคือการลงทุนซื้อกล่องฆ่าเชื้อด้วยแสงอัลตราไวโอเลต (UV) เพื่อให้ได้การฆ่าเชื้อที่มีประสิทธิภาพอย่างสม่ำเสมอแก่โทรศัพท์มือถือของคุณ

การรักษาความสะอาดของโทรศัพท์มือถือถือเป็นมาตรการป้องกันที่สำคัญที่ทุกคนควรให้ความสำคัญ โดยเฉพาะในยุคที่เราเผชิญกับเชื้อโรคและไวรัสต่างๆ ในสังคมปัจจุบัน

ข้อมูลจาก: [UDN Health](https://health.udn.com)