17 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 22:49 น. 22
ในขณะนี้ การระบาดของไข้หวัดใหญ่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายงานว่ามีการเผยแพร่ข้อมูลในโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับการเสียชีวิตของบุคคลที่มีชื่อเสียง ซึ่งอ้างว่าคนควรให้ความสำคัญกับสุขภาพของตนเองมากขึ้น และกล่าวถึงปัญหาการตรวจวินิจฉัยโรคไข้หวัดใหญ่ในคลินิกที่มักเกิดความสับสนในการวินิจฉัย โดยย้ำว่าคลินิกมักไม่ทำการตรวจเพื่อวินิจฉัยไข้หวัดใหญ่ และมักจะจัดการเป็นเพียงแค่ไข้หวัดธรรมดา ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าผู้ที่มีประวัติเป็นโรคหัวใจ ปอด หรือโรคเรื้อรังอื่น ๆ ควรให้ความระมัดระวังในการรับมือทั้งไข้หวัดธรรมดาและไข้หวัดใหญ่
การระบาดของไข้หวัดใหญ่เกิดขึ้นเนื่องจากไวรัสที่มีการแพร่ระบาดในฤดูหนาวและสามารถเข้าถึงได้ง่ายในช่วงที่มีการชุมนุมของผู้คน ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ไข้หวัดใหญ่สามารถทำให้เกิดความรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเรื้อรัง และเด็กอายุไม่ถึง 5 ปี
ในข้อความที่ถูกเผยแพร่ มีการบรรยายถึงประสบการณ์ส่วนตัวเกี่ยวกับการไปพบแพทย์ที่คลินิกและถูกวินิจฉัยว่าจะเป็นไข้หวัดธรรมดา ทั้งในกรณีของผู้เล่าเรื่องและเพื่อนของเขาที่ถูกตรวจพบว่าเป็นไข้หวัดใหญ่หลังจากที่ต้องเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาล การที่ไข้หวัดใหญ่มักมีอาการคล้ายกับไข้หวัดธรรมดา ทำให้มีความเสี่ยงที่จะถูกวินิจฉัยผิดพลาดได้ โดยเฉพาะเมื่อมีอาการเฉียบพลันด้านระบบทางเดินหายใจที่อาจจะไม่เด่นชัดในระยะแรก
ข้อสังเกตสำคัญคือ ว่าการแยกไข้หวัดใหญ่และไข้หวัดธรรมดานั้นอาจจะทำได้ยาก เนื่องจากทั้งสองโรคมีอาการที่ทับซ้อนกัน ตัวอย่างเช่น ไข้หวัดใหญ่มักมีอาการไข้สูง หนาวสั่น ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และอ่อนเพลีย ขณะที่ไข้หวัดธรรมดามักจะมีอาการที่เบากว่า เช่น คัดจมูก น้ำมูกไหล และเจ็บคอ
การติดต่อกับแพทย์จึงเป็นแนวทางที่ดีที่สุดเพื่อตรวจสอบผลตอบรับจากการตรวจสอบ การวิเคราะห์ผลที่แม่นยำจากการทดสอบแยกไข้หวัดใหญ่นั้นมีความสำคัญโดยเฉพาะในช่วงที่มีการระบาด เพียงแต่การตรวจหาไวรัสไม่สามารถถือเป็นมาตรการที่แน่นอนว่าผู้ป่วยจะไม่มีไข้หวัดใหญ่ หรือจะต้องพึ่งพาการพิจารณาของแพทย์เช่นกัน
นอกจากนี้ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับการทดสอบไวรัสนั้นควรพิจารณาข้อจำกัดของเครื่องมือทดสอบ โดยมีการอธิบายว่าความแม่นยำของการทดสอบสามารถแปรผันได้ตามระยะเวลาของการติดเชื้อและระดับไวรัสที่มีอยู่ในร่างกาย การตรวจหาในระยะเริ่มต้นอาจแสดงผลลบเมื่อร่างกายมีปริมาณไวรัสต่ำ ในขณะที่เมื่อมีอาการรุนแรงขึ้น ผลการตรวจจะแสดงค่าที่สูงขึ้น การเตือนให้ประชาชนตระหนักถึงอาการของไข้หวัดใหญ่และการเข้าถึงการตรวจอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้การประเมินอาการทำได้ถูกต้องมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้ถูกนำเข้ามาอยู่ในรายการการรักษาที่ได้รับการสนับสนุนจากระบบประกันสุขภาพตั้งแต่ปี 2017 ทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการตรวจหาไข้หวัดใหญ่ได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าบริการเพิ่มเติมในบางสถานพยาบาล ผู้ป่วยสามารถที่จะได้รับการตรวจฟรีหากปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้
นอกจากนี้ ยังมีการเปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2024 เป็นต้นไป จะมีการดำเนินการให้ประชาชนสามารถเข้าถึงยาเสพติดเช่น Osteltamivir (ป้ายยาเร็วกว่าสามารถในการรักษาไข้หวัดใหญ่) โดยแพทย์สามารถสั่งจ่ายยาได้หากพบอาการไข้หวัดใหญ่หรือมีประวัติการติดเชื้อในกลุ่มเดียวกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเข้าถึงการรักษาอย่างทันท่วงทีจะช่วยลดอัตราเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ได้
สรุปได้ว่าผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นไข้หวัดใหญ่หรืออาการคล้ายไข้หวัด ควรไปพบแพทย์ในคลินิกและปฏิบัติตามข้อเสนอแนะจากแพทย์ ทั้งนี้ เนื้อหาดังกล่าวไม่ควรถูกเข้าใจในทางที่ผิดหรือมีการแพร่กระจายข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการวินิจฉัยไข้หวัดใหญ่และความสำคัญในการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ
(บทความนี้ดัดแปลงจากข้อมูลของ MyGoPen)
ข้อมูลจากแหล่งข่าว: MyGoPen