สำนักข่าวไทยเฮดไลน์รายงานว่า เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ศูนย์สำรวจความคิดเห็นสาธารณะของมหาวิทยาลัยการจัดการพัฒนาประเทศไทย (NIDA Poll) ได้เปิดเผยผลสำรวจเกี่ยวกับ "การปราบปรามแก๊งหลอกลวง" โดยการสำรวจนี้เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 10 ถึง 11 กุมภาพันธ์ โดยมีประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปจากทุกภูมิภาคเข้าร่วม ซึ่งมีความหลากหลายทั้งในเรื่องของระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ โดยจำนวนตัวอย่างทั้งหมดคือ 1,310 คน สำรวจนี้มุ่งเน้นที่มาตรการต่าง ๆ ของรัฐบาลไทยในการต่อสู้กับปัญหาการหลอกลวงทางโทรศัพท์จากประเทศเมียนมา

เมื่อถูกถามเกี่ยวกับ "การดำเนินการโดยรัฐบาลไทย เช่น การตัดไฟ ตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต และการระงับการส่งออกน้ำมันเพื่อแก้ไขปัญหาแก๊งหลอกลวงในเมียนมา" ได้มีผู้ตอบแบบสอบถามถึง 70.54% ที่แสดงความเห็นว่าเห็นด้วยอย่างมาก ในขณะที่ 21.07% เห็นด้วยพอสมควร ส่วน 5.34% ไม่ค่อยเห็นด้วย และอีก 3.05% ไม่เห็นด้วยเลย

ในส่วนของคำถามที่ว่า "มาตรการที่รัฐบาลไทยดำเนินการจะช่วยแก้ไขปัญหาแก๊งหลอกลวงภายในเมียนมาได้หรือไม่" พบว่า 60.92% ของผู้ตอบแบบสอบถามเชื่อว่ามาตรการนี้สามารถช่วยได้ในระดับหนึ่ง ส่วน 17.71% เห็นว่าช่วยได้มาก ขณะที่ 15.95% เชื่อว่าช่วยได้น้อย และ 5.42% เห็นว่ามาตรการนี้ไม่ช่วยอะไรเลย

เมื่อถูกร้องถามเกี่ยวกับ "เจ้าหน้าที่รัฐไทยบางคนมีส่วนเกี่ยวข้องหรือสนับสนุนแก๊งหลอกลวงทางโทรศัพท์ในเมียนมาหรือไม่" พบว่า 69.85% เชื่อว่ามีการมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน ขณะที่ 26.87% ยังไม่แน่ใจ และ 3.28% เชื่อว่าไม่มี

ท้ายที่สุด เมื่อผู้ตอบแบบสอบถามถูกถามว่าผู้ที่ทำงานกับแก๊งหลอกลวงในเมียนมานั้นถูกหลอกหรือเป็นการสมัครใจ พบว่า 49.77% เชื่อว่าสัดส่วนของทั้งสองกลุ่มอาจใกล้เคียงกัน ขณะที่ 25.80% เชื่อว่าส่วนใหญ่เป็นการสมัครใจในขณะที่ 20.38% เชื่อว่าส่วนใหญ่ถูกหลอก และ 4.05% ยังไม่แน่ใจ

(แหล่งที่มา: thaipost)