ข่าวจากสำนักข่าวไทยเฮดไลน์ รายงานว่า เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา คุณยายจิราภรณ์ อายุ 71 ปี ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจสถานีตำรวจเมืองวังน้ำเขียว หลังจากที่เธอถูกหลอกลวงให้มอบทรัพย์สินของเธอในเช้าวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ซึ่งรวมถึงทองคำ 17 บาท (1 บาทเท่ากับประมาณ 15.16 กรัม) มูลค่าประมาณ 800,000 บาท และเงินสดประมาณ 150,000 บาท รวมถึงเงินสกุลต่างประเทศอีกบางส่วน

คุณยายจิราภรณ์เล่าให้ฟังว่า ในวันเกิดเหตุ เธอได้ยืนอยู่หน้าร้านค้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในจังหวัดยโสธร ขณะนั้นมีหญิงสาวอายุประมาณ 50 ปี เดินเข้ามาพูดคุยกับเธอและสอบถามเกี่ยวกับบุคคลที่ชื่อ “หลวงจีนหวัง” เมื่อคุณยายบอกว่าไม่รู้จัก หลายคนรวมถึงหญิงสาวอีกสองคนก็เข้ามามีส่วนร่วมในการสนทนา และพวกเขาก็ได้เดินไปยังร้านข้าวเหนียวใกล้เคียงเพื่อพูดคุยกันต่อ หญิงสาวคนหนึ่งได้แสดงตัวว่าเป็นหมอดูและเริ่มเล่าข้อมูลส่วนตัวของคุณยาย รวมทั้งการที่เธอมีลูก 5 คนและลูกที่เสียชีวิตไปคนหนึ่ง นอกจากนี้ หมอดูยังบอกว่า ลูกสาวของเธอกำลังเผชิญกับโชคร้าย จำเป็นต้องนำทรัพย์สินทั้งหมดมาใส่ในถุงเพื่อแก้ไขสิ่งไม่ดี นั่นทำให้คุณยายจิราภรณ์กับอีกหนึ่งหญิงสาวต้องกลับบ้านเพื่อนำทองคำ 17 บาท เงินสด 150,000 บาท และเงินสกุลต่างประเทศมาตั้งอยู่ในถุงดังกล่าว

ในช่วงนั้น หมอดูได้เตือนคุณยายจิราภรณ์ว่า ถุงที่บรรจุทรัพย์สินจะต้องถูกเปิดในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า แต่เมื่อล่วงเลยมา คุณยายรู้สึกสงสัยและตัดสินใจที่จะเปิดถุงก่อนกำหนด ผลที่ได้คือ เธอพบว่าในถุงนั้นไม่มีทรัพย์สมบัติของเธออีกแล้ว แต่ถูกแทนที่ด้วยน้ำยาล้างจานและขวดน้ำ คุณยายกล่าวว่า เธอยังได้พกสมุดบัญชีธนาคารไปด้วยเพื่อที่จะถอนเงิน แต่เนื่องจากวันนั้นเป็นวันหยุดธนาคารจึงปิดทำการ ทำให้เธอไม่สามารถถอนเงินได้ มิฉะนั้นยอดเงินในบัญชีก็อาจจะถูกลักขโมยไปด้วย

ตำรวจสถานีตำรวจเมืองวังน้ำเขียวได้ทำการสืบสวนสอบสวน และสามารถจับกุมสมาชิกแก๊งค์ฉ้อโกงได้ถึง 5 คนที่โรงแรมในจังหวัดยโสธร ซึ่งประกอบไปด้วยผู้หญิง 4 คน และผู้ชาย 1 คน ทั้งหมดเป็นพลเมืองจีน อาทิเช่น สุและฉิน (ชื่อทั้งหมดเป็นการถอดเสียง) วัย 49 ปี, เสียงกุ้ยหลิน อายุ 52 ปี, จูเหมียนฟาง อายุ 49 ปี, หลี่ไห่หยาง อายุ 49 ปี และเอ๋อจงเจียน อายุ 50 ปี (ชาย) ทางตำรวจยังได้ยึดทองคำ 17 บาท เงินสดประมาณ 30,000 บาท และเงินสกุลต่างประเทศบางส่วนจากที่เกิดเหตุไว้ด้วย หลังจากนั้น ทั้ง 5 คนถูกนำตัวกลับไปที่สถานีตำรวจเพื่อสอบปากคำ พร้อมมีล่ามภาษาจีนเพื่อช่วยในการสื่อสาร

ในช่วงแรก สมาชิกแก๊งค์ทั้ง 5 คนไม่ได้ให้ความร่วมมือกับตำรวจ โดยให้ข้อมูลเท็จและยืนยันว่า นี่คือการกระทำครั้งแรกของพวกเขา โดยเงินที่ได้มาเพียง 30,000 บาท และบางส่วนของทองเป็นของปลอม อย่างไรก็ตาม ตำรวจไม่เชื่อคำให้การเหล่านั้น และได้รับเรื่องนี้เข้าสู่การสอบสวนอย่างละเอียดที่สถานีตำรวจเมืองวังน้ำเขียว เพื่อขยายการสืบสวนให้กว้างขวางมากขึ้น

เมื่อผู้ต้องสงสัยทำการจำลองเหตุการณ์นั้นได้พบกับเหยื่อ ทำให้พวกเขาแสดงอาการเสียใจสุดขีด ร้องไห้ขออภัยจนถึงขนาดที่เหยื่อเริ่มรู้สึกอึดอัดและดุด่าพวกเขาเป็นภาษาจีน ในท้ายที่สุด เหยื่อได้ยืนยันได้บางส่วนของทรัพย์สินที่ถูกตำรวจนำกลับมาได้ รวมถึงทองคำ 13.5 บาท เงินสด 30,000 บาท และเงินสกุลต่างประเทศบางส่วน

ในขณะนี้ เอ๋อจงเจียน และหลี่ไห่หยาง ได้ปฏิเสธการเกี่ยวข้องกับคดีนี้ โดยเอ๋อจงเจียนได้บอกว่าเขาเพียงแค่ถูกจ้างมาเป็นคนขับรถ ขณะที่หลี่ไห่หยางระบุว่าเธอไม่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวและไม่เคยมีส่วนร่วมในการฉ้อโกง แต่จากการสอบสวนของตำรวจพบว่า ทั้ง 5 คนได้เดินทางมาจากจีนโดยเครื่องบินในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ และได้เดินทางเข้ามายังเมืองวังน้ำเขียวในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ก่อนที่จะลงมือฉ้อโกงในวันที่ 12 และกลับไปที่โรงแรมของพวกเขาร่วมกัน

ข้อมูลเพิ่มเติมจากการสืบสวนนี้ เป็นที่ชัดเจนว่า การหลอกลวงแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยในกลุ่มขบวนการต่างชาติที่เข้ามาทำอาชญากรรมในประเทศไทย ทำให้ผู้คนที่เดินทางมายังประเทศนี้ต้องระมัดระวังและสังเกตพฤติกรรมที่ผิดปกติรอบตัว

(แปลโดย: KA; อ้างอิงจาก khaosod, ch3plus)