ตามรายงานจากสื่อในประเทศไทย เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจในกรุงเทพมหานครได้รับแจ้งเหตุจากโรงแรมแห่งหนึ่งในเขตกรุงเทพมหานครว่าพบผู้เสียชีวิตเป็นหญิงสาวในห้องหมายเลข 112 ขณะเจ้าหน้าที่เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พบว่าผู้เสียชีวิตคือ เอไลดา วัย 22 ปี โดยพบว่าเธอไม่มีเสื้อผ้าบนร่างกายและไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือบาดแผลที่เห็นได้ชัดเจน

การตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดของโรงแรม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า:
- เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ เวลา 23:16 น. มีชายชาวจีนคนหนึ่งเข้ามาที่โรงแรมและทำการเช็คอิน
- ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ เวลา 02:51 น. เอไลดามาถึงโรงแรมและเข้าห้องพักของชายจีนคนดังกล่าว
- ในเวลา 06:16 น. ของวันเดียวกัน ชายชาวจีนได้ออกจากห้องพักคนเดียวโดยไม่กลับมาอีก
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่โรงแรมได้เข้าไปในห้องและพบว่าเอไลดาเสียชีวิตแล้ว จึงได้ทำการแจ้งตำรวจเพื่อให้มีการเข้าตรวจสอบ
 
ตำรวจได้เริ่มการสอบสวนทันที โดยได้ทำการขอออกหมายจับเพื่อติดตามตัวผู้ต้องสงสัย และได้เรียกสอบปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้องหลายราย ในขณะเดียวกันมีรายงานว่าเอไลดาเคยทำงานเป็นนางแบบให้กับลูกค้าชาวจีนผ่านตัวแทน ในระหว่างที่ทำงานนี้ข้อมูลจากตัวแทนกล่าวว่าเธอต้องไปเป็นเพื่อนดื่มเหล้า และอาจมีความเชื่อมโยงกับสารเสพติดด้วย

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกตัวผู้บริหารของบริษัทนางแบบเพื่อสอบสวน โดยได้ระบุให้ชัดเจนว่าผู้ต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องคือชายชาวจีน “Duoying” (นามสกุลยังไม่เปิดเผย) ซึ่งตำรวจเชื่อว่าชายคนนี้อาจเข้าข่ายการบังคับให้เอไลดาเสพยาจนทำให้เธอเสียชีวิต

เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ศาลในประเทศไทยได้ออกหมายจับอย่างเป็นทางการ โดยตั้งข้อกล่าวหาชายชาวจีนคนนี้ในความผิดฐาน “ทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตโดยประมาท” พลตำรวจตรี นพสินธ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้จัดกำลังตำรวจในการติดตามจับกุมผู้ต้องสงสัย และได้แจ้งหน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองของไทยให้เฝ้าระวังที่ทุกพรมแดน เพื่อป้องกันการหลบหนีออกนอกประเทศ พร้อมระบุว่าทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
 
(อ้างอิงจาก khaosod)