ชายจีนถูกออกหมายจับ หลังบังคับหญิงไทยเสพยาจนเสียชีวิต

17 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 17:23 น.    77

เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นางสาวซาโวนี มารดาของนางสาวไอลาดา ผู้หญิงไทยที่ถูกชายชาวจีนบังคับให้เสพยาเสพติดจนเสียชีวิต เดินทางเข้ารายงานความคืบหน้าที่สถานีตำรวจโชคชัยในกรุงเทพฯ ร่วมกับพี่สาวของเธอ โดยมีจุดประสงค์เพื่อเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจสอบคดีนี้อย่างละเอียด เพื่อให้ได้ความเป็นธรรมสำหรับลูกสาวของตน ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ไอลาดาถูกพบเป็นศพอยู่ภายในโรงแรมแห่งหนึ่งในย่านบางกะปิ กรุงเทพมหานคร

จากการเปิดเผยของพี่สาวของไอลาดา ระบุว่าครอบครัวได้รับข้อมูลเกี่ยวกับอาชีพของน้องสาวจากตำรวจหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น โดยก่อนหน้านี้พวกเขาทราบเพียงแค่ว่าไอลาดาทำงานในบริษัทขนส่ง ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นพาร์ทไทม์ และเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เธอได้แยกทางกับแฟนหนุ่ม และย้ายออกมาอยู่คนเดียว โดยมีการโทรศัพท์ขอกำลังใจจากครอบครัวเพราะต้องการเงินช่วยจ่ายค่าเช่าห้อง แต่เนื่องจากสถานการณ์ทางการเงินในครอบครัวไม่เอื้ออำนวย จึงไม่ได้รับความช่วยเหลือ

พี่สาวกล่าวต่อไปว่า เธอมั่นใจว่าผู้เสียชีวิตมีการทำงานในลักษณะนี้เป็นครั้งแรก เพราะก่อนที่เหตุการณ์จะเกิดขึ้น ไอลาดายังอาศัยอยู่ที่บ้านในจังหวัดเชียงใหม่ และไม่เคยแสดงใดๆ ถึงการเสพยาเสพติด โดยที่ครอบครัวไม่มีประวัติการเสพยาหรือมีพฤติกรรมเข้าข่ายนี้มาก่อน

ตามข้อมูลที่ครอบครัวให้ไว้ เมื่อเวลาประมาณ 01:30 น. ของวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ไอลาดาได้บอกกับแฟนหนุ่มในขณะนั้นว่า เธอมีแผนที่จะออกไปทำงาน แต่ไม่ได้แจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับอาชีพของเธอ คืนเดียวกันนั้นเธอถูกพบว่าเสียชีวิตอยู่ภายในห้องพักของโรงแรม

ครอบครัวของไอลาดาได้เร่งดำเนินการจัดงานศพในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ เนื่องจากสถานการณ์ทางการเงินที่ย่ำแย่ของครอบครัวทำให้ต้องกู้ยืมเงินเพื่อจัดงานศพ และพวกเขาได้รับการสนับสนุนบางส่วนจากวัดที่เลือก เพื่อให้สามารถทำพิธีทางศาสนาและเผาศพในเวลาที่รวดเร็ว

พี่สาวของผู้เสียชีวิตได้กล่าวว่ามีข้อสงสัยมากมายเกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิตของน้องสาว โดยเพื่อนของไอลาดาชี้แจงว่าเธอไม่เคยเสพยาเสพติดหรือทำงานในลักษณะนี้มาก่อน อย่างไรก็ตาม ครอบครัวไม่สามารถนำเสนอหลักฐานที่ชัดเจนเพื่อพิสูจน์ได้ เนื่องจากหลักฐานสำคัญทั้งหมด เช่น โทรศัพท์มือถือของไอลาดาถูกตำรวจเก็บไปเพื่อการสอบสวน ครอบครัวได้ร้องขอคืนโทรศัพท์หลายครั้งเพื่อจะตรวจสอบบันทึกการโทรและข้อความก่อนเกิดเหตุ แต่ตำรวจบอกว่าให้รอจนกว่าคดีจะเสร็จสิ้นก่อน

นอกจากนี้ยังมีบางคนเสนอไกล่เกลี่ยให้กับครอบครัวโดยพยายามให้เงินชดเชยเพื่อให้เรื่องจบลง:

การติดต่อครั้งแรก: มีคนที่อ้างตัวว่าเป็น "นายหน้า" ติดต่อมา บอกว่าตนเป็นตัวแทนของชายชาวจีนที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ โดยเสนอให้ชดเชยเป็นเงิน 100,000 บาท สำหรับค่าการจัดงานศพ และแนะนำให้ครอบครัวเรียกร้องเงินชดเชยในจำนวนที่สูงขึ้น โดยอ้างว่าฝ่ายชายพร้อมจ้างทนายในการเจรจา

การติดต่อครั้งที่สอง: นายหน้าอีกคนได้กลับมาติดต่ออีกครั้ง โดยเพิ่มจำนวนเงินชดเชยเป็น 200,000 บาท แต่ครอบครัวของไอลาดาไม่ได้ตอบรับข้อเสนอและไม่ได้รับเงินใดๆ

อีกทั้งยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่แนะนำให้ครอบครัวพิจารณาสองทางเลือกในการดำเนินการ:

1. รับค่าเสียหาย: ตำรวจสามารถทำหน้าที่เป็นนายหน้าเพื่อจัดการเรื่องค่าเสียหาย 500,000 บาท

2. ปฏิเสธการชดเชยและดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม: แต่ตำรวจระบุว่าหากเลือกเส้นทางนี้ ฝ่ายจำเลยจะอาจกล่าวอ้างว่าไอลาดาเป็นผู้ที่เข้ามาเสนองานด้วยตนเอง ซึ่งอาจทำให้ครอบครัวแพ้คดีและไม่ได้รับเงินชดเชยใดๆ

ความสับสนนั้นยังมีมากขึ้นเมื่อพี่สาวของไอลาดาเปิดเผยว่าเมื่อวานนี้ (15 กุมภาพันธ์) พวกเขาเพิ่งทราบว่าผู้ที่ติดต่อมาก่อนหน้านี้เป็นคนรักของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องในคดีฟ้องร้องนี้ ข้อนี้ทำให้พวกเขายิ่งสงสัยว่ามีการแทรกแซงในคดี จนทำให้การตรวจสอบล่าช้า และความเป็นธรรมของการสอบสวนถูกตั้งคำถาม พร้อมกับประกาศยืนยันในการเปิดเผยความจริงเพื่อขอความเป็นธรรมให้กับน้องสาวของตน

ในขณะที่คดีนี้ยังคงถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง พลตำรวจตรีสัญญา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลกรุงเทพ ได้ออกคำสั่งให้ติดตามชมชายชาวจีนที่เกี่ยวข้องในคดีนี้อย่างสม่ำเสมอ โดยเขาถูกกล่าวหาว่าส่งผู้เสียชีวิตเสพยาและทำให้เธอเสียชีวิต นอกจากนี้ยังมีการสอบสวนผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นนายหน้าเพื่อตรวจสอบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการชักชวนทางผิดกฎหมายหรือร่วมทำลายหลักฐานหรือไม่ พร้อมทั้งตรวจสอบว่าตำรวจในพื้นที่มีการกระทำที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ หากมีการพบความผิดจะมีการดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวด

ตามรายงานของตำรวจ เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ มีการแจ้งเหตุว่ามีผู้หญิงรายหนึ่งถูกพบเป็นศพในห้อง 112 ของโรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ตำรวจจึงเดินทางไปที่เกิดเหตุและยืนยันว่าเป็นศพของนายไอลาดา วัย 22 ปี โดยการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเธอไม่สวมเสื้อผ้าส่วนบนและไม่มีบาดแผลหรือร่องรอยการต่อสู้ที่ชัดเจน โดยสาเหตุการเสียชีวิตยังต้องรอผลการชันสูตร

จากการดูภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรม พบว่า:

- วันที่ 9 กุมภาพันธ์ เวลา 23:16 น. ชายชาวจีนคนหนึ่งเดินทางเข้ามาที่โรงแรมและทำการเช็คอิน

- วันที่ 10 กุมภาพันธ์ เวลา 02:51 น. ไอลาดามาถึงโรงแรมและเข้าไปในห้องที่ชายชาวจีนพักอยู่

- วันที่ 10 กุมภาพันธ์ เวลา 06:16 น. ชายชาวจีนได้ออกจากห้องพักเพียงคนเดียวโดยไม่ได้กลับมาอีก และหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่โรงแรมได้เข้าไปในห้องและพบว่าไอลาดาเสียชีวิต จึงได้มีการแจ้งตำรวจเข้ามาตรวจสอบ

ตำรวจได้เริ่มการสืบสวนอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งขอหมายจับเพื่อติดตามตัวผู้ต้องสงสัย และได้เชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องมาสอบสวนแล้ว โดยรายงานระบุว่าไอลาดาเคยทำงานให้กับบริษัทรับจัดหางานซึ่งมีลูกค้าชาวจีนที่ต้องการให้เธอไปร่วมดื่มสุรา และบางกรณีอาจเกี่ยวข้องกับการเสพยาเสพติด

ตำรวจได้เรียกผู้บริหารของบริษัทนี้มาสอบสวนและได้ระบุถึงตัวตนของผู้ต้องสงสัยที่เชื่อว่าเป็นชายชาวจีนที่ชื่อ “Duoying” (นามสกุลยังไม่เปิดเผย) โดยตำรวจเชื่อว่าชายคนนี้มีส่วนบังคับผู้เสียหายให้เสพยาเสพติดและเป็นเหตุให้เธอเสียชีวิต

ข้อมูลจากตำรวจแสดงให้เห็นว่าคดีนี้จะได้รับการตรวจสอบอย่างเข้มงวดและจะมีการดำเนินการตามกฎหมายโดยไม่มีการละเว้น หรือยอมให้มีการแทรกแซงแต่อย่างใด

(แหล่งที่มา: khaosod)