การใช้ชีวิตประจำวันมีผลต่อรูปลักษณ์ภายนอกของคนเราจริงหรือไม่? งานวิจัยใหม่จากสหรัฐอเมริกาได้ทำการศึกษากับกลุ่มคู่แฝดที่เป็นคนเดียวกันจำนวน 186 คู่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบผลกระทบจากวิถีชีวิตที่แตกต่างกันต่อรูปลักษณ์ โดยทีมวิจัยได้ทำการถ่ายภาพพอร์ตเทรตของผู้เข้าร่วมทดลอง ผลการศึกษาพบว่า แม้คู่แฝดที่เคยมีลักษณะเกือบเหมือนกันในวัยเด็ก แต่พวกเขากลับมีรูปลักษณ์ที่แตกต่างกันในวัยผู้ใหญ่ เนื่องจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น การสูบบุหรี่ การบริโภคอาหารที่ไม่ดี การหย่าร้าง และการออกแดดนาน ๆ ซึ่งทำให้พวกเขามีการเสื่อมสภาพของผิวพรรณมากกว่าคนอื่น ๆ

ในการศึกษานี้ ทีมวิจัยนำโดยศัลยแพทย์พลาสติกได้ทำการวิเคราะห์รูปลักษณ์ใบหน้าของคู่แฝด รวมถึงระดับความรอยเหี่ยวย่น แนวรูปหน้า ความหย่อนคล้อยของผิว และตำแหน่งของจุดด่างดำ โดยเฉพาะภาพของคู่แฝดหญิงอายุ 54 ปีอย่าง Janet และ Jean ที่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ

ในการเปรียบเทียบระหว่าง Jean ที่หย่าร้างมานานหลายปี กับ Janet ที่แต่งงานอยู่ถึงสามสิบปี ผลปรากฏว่า Jean ดูมีอายุมากกว่า จากการที่ใบหน้าของเธอมีรอยเหี่ยวย่นชัดเจนกว่าซึ่งรวมถึงรอยยิ้มและรอยเหี่ยวย่นที่หน้าผาก รวมถึงสีผิวใต้ตาที่หมองคล้ำกว่าอย่างเห็นได้ชัด

ดร. บาห์มัน กายูรอน (Dr. Bahman Guyuron) ศัลยแพทย์พลาสติกและหัวหน้าทีมวิจัยได้อธิบายว่า ความแตกต่างนี้อาจเกิดจาก Jean ประสบปัญหาทางอารมณ์จากการหย่าร้างหลังแต่งงานนาน 27 ปี ซึ่งนำไปสู่ความเครียดเรื้อรังที่สามารถทำลาย DNA และกระตุ้นการอักเสบในร่างกาย ส่งผลต่อรูปลักษณ์ภายนอก

ในระหว่างการศึกษายังมีภาพของคู่แฝดอายุ 27 ปีที่แสดงให้เห็นความแตกต่างอย่างเด่นชัดอีกด้วย โดย Gina มีน้ำหนักเกินกว่าคู่แฝด Dina ถึง 22.6 กิโลกรัม ซึ่งส่งผลให้ใบหน้าของเธอดูมีอายุมากขึ้น ในขณะที่ Dina มีใบหน้าที่ดูอ่อนเยาว์และสดใสกว่า

จากข้อมูลที่แสดงในงานวิจัย ยังมีอีกหนึ่งกรณีศึกษาเกี่ยวกับคู่แฝดอายุ 61 ปี โดยคู่หนึ่งมีการออกแดดมากกว่าคู่ของตัวเองถึง 10 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และเธอยังมีประวัติการสูบบุหรี่นานถึง 16 ปี ส่งผลให้รอยเหี่ยวย่นและจุดด่างดำบนใบหน้าดูชัดเจนมากขึ้น โดยในกรณีนี้ ศัลยแพทย์พบว่ารู้สึกถึงความแตกต่างด้านอายุระหว่างพวกเธอถึง 11.25 ปี

กรณีศึกษาทำให้เห็นว่าสำหรับคู่แฝดที่มีอายุมากกว่า การมีน้ำหนักตัวมากขึ้นสามารถทำให้ดูอ่อนเยาว์กว่าคู่แฝดที่มีน้ำหนักน้อยกว่าได้ เนื่องจากไขมันบนใบหน้าอาจทำให้รอยเหี่ยวย่นมองเห็นได้น้อยลง ข้อมูลเหล่านี้สามารถพิสูจน์ให้เห็นว่าอายุเกิน 40 ปีเป็นช่วงเวลาที่เริ่มพัฒนา รอยเหี่ยวย่นมากขึ้น ควบคู่กับการศึกษาหมายความว่าในคู่แฝดที่อายุต่ำกว่า 40 ปีสถานการณ์จะตรงกันข้าม

นอกจากนี้ การสูบบุหรี่ก็ได้ถูกพิสูจน์ว่ามีผลต่อการเสื่อมสภาพของผิวพรรณ โดยการศึกษาพบว่าแม้เพียงแค่สูบบุหรี่เป็นเวลาห้าปี ผิวหน้าของคู่แฝดยังเริ่มแสดงอาการแก่ขึ้นกับการรับรู้อายุที่แตกต่างกัน โดยเฉลี่ยผู้ที่สูบบุหรี่นานถึง 10 ปี จะมีรูปลักษณ์เหมือนแก่ขึ้นถึง 2.5 ปี ในขณะที่แต่ละคู่แฝดที่มีอายุจริงเท่ากันแตกต่างกันได้ถึง 8 ปี ซึ่งเกิดจากผลกระทบในการลดการไหลเวียนของเลือดและออกซิเจนในผิว ส่งผลให้ผิวแห้งและเกิดริ้วรอยได้ง่าย

การศึกษานี้ทำให้ผู้คนมีความเข้าใจที่ลึกซึ้งขึ้นในเรื่องของวิธีดำเนินชีวิตที่มีผลต่อการแสดงออกของร่างกายและขอแนะนำให้มีการพิจารณาเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตและการดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพในด้านต่าง ๆ

ข้อมูลจาก American Society of Plastic Surgeons