12 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 14:51 น. 113
เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ สำนักข่าวไทยเฮดไลน์รายงานว่า ตามที่มีข้อมูลจากรอยเตอร์ระบุว่า ประเทศไทยกำลังมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางการพนันระดับโลก โดยมีแผนพัฒนาคาสิโนผ่านการสร้างศูนย์บันเทิงหลายรูปแบบ เพื่อดึงดูดผู้ประกอบการชั้นนำจากทั่วโลก ซึ่งคาดว่าจะสร้างรายได้หลายพันล้านดอลลาร์ และกระตุ้นการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่กำลังขยายตัว อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ระบุว่า ความสำเร็จของประเทศไทยจะขึ้นอยู่กับการจัดทำกฎระเบียบที่เหมาะสม ซึ่งถือเป็น “พื้นที่ที่ท้าทาย” ของประเทศ เช่นเดียวกับที่เกิดข้อผิดพลาดในกรณีการทำให้กัญชาเป็นสิ่งถูกกฎหมายเมื่อปี 2022
เฟรดริค กูชิน ซีอีโอของ Spectrum Gaming Group ซึ่งเป็นองค์กรที่ปรึกษาระดับนานาชาติ เคยมีส่วนช่วยให้สิงคโปร์ก้าวขึ้นเป็นตลาดคาสิโนที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลก รองจากมาเก๊าและลาสเวกัส เขาได้ชี้ให้เห็นว่า นักลงทุนต้องการกระบวนการที่โปร่งใสและระบบการควบคุมที่เหมาะสมเพื่อปกป้องการลงทุนของพวกเขา นี่จึงถือเป็นโอกาสทองสำหรับประเทศไทย โดยบางแห่งได้ประเมินว่า ประเทศไทยมีศักยภาพที่จะก้าวเกินสิงคโปร์ เนื่องจากความน่าสนใจในตลาดจากยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมอย่างบริษัทลาสเวกัสแซนด์ส (Las Vegas Sands Corp), เมกกะ-รีสอร์ท (MGM Resorts International) และกลุ่มความบันเทิงเกลซี (Galaxy Entertainment)
เมื่อเดือนที่แล้ว คณะรัฐมนตรีไทยได้อนุมัติร่างกฎหมายการสร้างศูนย์บันเทิง “การทำให้การพนันเป็นสิ่งถูกกฎหมาย” ถือเป็นหัวใจสำคัญของร่างกฎหมายนี้ รัฐบาลไทยมองว่า การทำให้การพนันถูกกฎหมายจะช่วยเติมเต็มพลังให้กับเศรษฐกิจ โดยเฉพาะหลังจากที่คาดว่าอัตราการเติบโตของ GDP ในปีนี้จะต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ธนาคารซิตี้แบงก์คาดการณ์ว่า เมื่ออุตสาหกรรมการพนันของไทยเริ่มดำเนินงานได้เต็มที่ รายได้ประจำปีอาจสูงถึง 9.1 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทำให้รายได้จากการพนันของไทยแซงหน้านักลงทุนในสิงคโปร์
ประเทศไทยมีศักยภาพมหาศาลในการเป็นจุดหมายปลายทางด้านการพนัน โดยมีข้อเสนอในการสร้างคาสิโนในกรุงเทพฯ, ภูเก็ต และอีกสามภูมิภาค ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในพื้นที่ ในปี 2024 ประเทศไทยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติถึง 35.55 ล้านคน เติบโตขึ้น 26.27% จากปีก่อน โดยใกล้เคียงกับสถิติสูงสุดที่เคยมีในปี 2019 ที่ 39.9 ล้านคน
รัฐบาลไทยภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยต้องการดึงดูดการลงทุนอย่างน้อย 1 แสนล้านบาท และเพิ่มจำนวนชาวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศขึ้น 5-10% รวมทั้งสร้างรายได้เฉลี่ยกว่า 12,000 ล้านบาทต่อปี แต่ในขณะนี้การสนับสนุนจากประชาชนยังค่อนข้างจำกัด การสำรวจเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าจากผู้ตอบแบบสอบถาม 1,310 คน พบว่าเกือบ 60% ปฏิเสธแผนนี้ นอกจากนี้ ความต้านทานทางการเมืองก็เริ่มเพิ่มมากขึ้น โดยพรรคประชาชาติอย่างรัฐบาลประชาชนแสดงความกังวลเกี่ยวกับปัญหาการพนันและหนี้สินในครอบครัวที่อาจเกิดขึ้น ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าการตั้งมาตรการคุ้มครองทางสังคมที่มีประสิทธิภาพจะเป็นจุดสมดุลที่สำคัญ เนื่องจากนักลงทุนก็เฝ้าติดตามการจัดทำกฎระเบียบอย่างใกล้ชิดอีกด้วย
(เรียบเรียงโดย KA ; แหล่งข่าว: posttoday)