11 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 20:42 น. 373
เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีรายงานจากสื่อไทยว่า สำนักงานตรวจสอบคดีพิเศษของประเทศไทย (ซึ่งจะเรียกย่อว่า สำนักงานฯ) จะมีการประชุมกับอัยการเพื่อยื่นหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดีการค้ามนุษย์ และหารือเกี่ยวกับประเด็นด้านกฎหมายในการขอหมายจับ โดยบุคคลหลักที่เป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้คือ พลเอกเซียวจู้จากกองกำลังชายแดนเมียนมา (BGF)
เจ้าหน้าที่ที่ทำการสอบสวนได้เปิดเผยว่า หลังจากที่สามารถช่วยเหลือผู้เสียหายชาวอินเดียที่ถูกบังคับให้มีส่วนร่วมในการฉ้อโกงทางโทรศัพท์ได้สำเร็จ สำนักงานฯ จึงพบหลักฐานที่สำคัญในระหว่างการสอบสวนต่อไป ซึ่งแสดงให้เห็นถึงเครือข่ายการค้ามนุษย์ที่ซับซ้อนและครอบคลุมหลายประเทศในภูมิภาค
รายงานเบื้องต้นระบุว่า พลเอกเซียวจู้ รวมถึงนายสนุกกับนายซูติงวิน เป็นผู้ต้องสงสัยหลักที่สำนักงานฯ ได้ยื่นขอหมายจับ โดยทั้งสองเป็นสมาชิกของกองกำลังชายแดนเมียนมา ซึ่งมีประวัติเกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ของประเทศไทย เปิดเผยว่า การตัดสินใจจับกุมพลเอกเซียวจู้เกิดขึ้นจากคดีเก่าที่เกี่ยวข้องกับการจับกุมพลเมืองไทยในประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีการเชื่อมโยงพลเอกเซียวจู้กับกิจกรรมการค้ามนุษย์อย่างชัดเจน นอกจากนี้ คดีนี้ยังเกี่ยวข้องกับบุคคลอื่นจากต่างประเทศอีกด้วย
รัฐมนตรียืนยันว่าการสอบสวนและการขอหมายจับนั้นเป็นขั้นตอนที่ปกติของสำนักงานฯ และไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีนมาเยือนประเทศไทย แต่อย่างใด ทั้งนี้ การสอบสวนจะเป็นไปอย่างระมัดระวัง เนื่องจากเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามชาติ ต้องมีการทำงานร่วมกับอัยการอย่างใกล้ชิดเพื่อให้มั่นใจว่าหมายจับมีความถูกต้องตามกฎหมาย ในขณะเดียวกันคดียังอาจขยายไปถึงประเด็นการฟอกเงินด้วย
รัฐมนตรีย้ำอีกว่า สำนักงานฯ มีจุดยืนที่ชัดเจนในการดำเนินคดีอย่างเป็นธรรมและโปร่งใส โดย จะดำเนินการตามหลักฐานอย่างเคร่งครัด โดยเชื่อมั่นว่าการจับกุมพลเอกเซียวจู้จะไม่ใช่เรื่องยาก หากได้รับความร่วมมือจากรัฐบาลเมียนมา รัฐบาลไทยจึงได้แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงในการทำงานร่วมกับประเทศอื่น ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อมูลจากแหล่งข่าว: ch7hd_news