10 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 18:23 น. 342
สำนักข่าวไทยเฮดไลน์รายงานว่า ตำรวจไทยภายใต้การนำของพลตำรวจโท ไดรณ วิจิตร ช่วงนี้ได้เริ่มต้นปฏิบัติการเพื่อต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติชื่อว่า “PHOBOS AETOR” โดยมีเป้าหมายเพื่อจับกุมผู้ลักลอบค้ามัลแวร์ในภูมิภาคจ.ภูเก็ต ซึ่งในการปฏิบัติการนี้ตำรวจสามารถบุกค้นพื้นที่ต้องสงสัยถึง 4 แห่ง และจับกุมผู้ต้องสงสัยที่เป็นแฮกเกอร์ต่างชาติได้ 4 คนในข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการใช้ซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตรายเพื่อเรียกค่าไถ่
ในการตรวจค้นที่เกิดขึ้น ตำรวจได้ค้นพบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จำนวนมากกว่า 40 ชิ้น รวมถึงโทรศัพท์มือถือ โน้ตบุ๊ก และกระเป๋าเงินดิจิทัล ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นหลักฐานสำคัญในการสืบสวนคดีที่เกี่ยวข้องกับการคุกคามทางไซเบอร์
พลตำรวจโท ไดรณ เปิดเผยว่าคดีนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยมีการช่วยเหลือจาก Interpol และทางการสหรัฐฯ และสวิตเซอร์แลนด์ได้ขอความช่วยเหลือเพื่อให้ตรวจสอบและรวบรวมหลักฐานเกี่ยวกับผู้ต้องสงสัยชาวยุโรป 4 คนซึ่งเชื่อมโยงกับการก่อการร้ายไซเบอร์ที่ทำให้บริษัทในสวิตเซอร์แลนด์ถึง 17 แห่งประสบความเสียหายเป็นจำนวนเงินมหาศาล
ในกระบวนการก่อการร้าย ผู้ต้องสงสัยใช้งานมัลแวร์ชื่อ “Phobos” เพื่อเข้าถึงเครือข่ายของเหยื่อและทำการเข้ารหัสไฟล์เพื่อเรียกร้องค่าไถ่ โดยเลือกที่จะใช้สกุลเงินดิจิทัลเป็นค่าไถ่ในการปลดล็อกข้อมูล หากเหยื่อปฏิเสธที่จะจ่ายเงิน ผู้ต้องสงสัยจะแจ้งเตือนผ่านทางอีเมลหรือโทรศัพท์เพื่อข่มขู่ให้เปิดเผยหรือขายข้อมูลของเหยื่อ
นอกจากนี้ ผู้ต้องสงสัยยังใช้บริการ “Mixing Service” เพื่อปกปิดการทำธุรกรรมใน blockchain ซึ่งทำให้การติดตามตรวจสอบเป็นไปได้ยากยิ่งขึ้น ผลกระทบจากการโจมตีดังกล่าวส่งผลกระทบต่อเหยื่อทั่วโลกกว่า 1,000 คน โดยรวมการสูญเสียทางการเงินที่สูงถึง 16 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 5.6 แสนล้านบาทไทย
ผู้บัญชาการตำรวจกล่าวว่า เนื่องจากข้อมูลสำคัญที่ได้รับจากการสืบสวน ตำรวจจึงได้ตัดสินใจทำการขยายผล และสามารถระบุว่าผู้ต้องสงสัยได้หลบซ่อนอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต โดยตำรวจได้ร่วมมือกับหน่วยตรวจคนเข้าเมืองและสถานีตำรวจเขต 8 ในการวางแผนเข้าตรวจค้น และสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ที่ที่พัก พร้อมกับตรวจพบเครื่องมือที่ใช้ในการก่ออาชญากรรมจำนวนมาก
(แปลโดย: wan; แหล่งข่าว: khaosod)