08 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 17:46 น. 543
ตามรายงานข่าวจากสื่อไทยเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กองเรือไทยได้ร่วมกับหลายหน่วยงานในการตรวจค้นและจับกุมเรือประมงต่างชาติที่ผิดกฎหมายหลังจากพบว่ามีการเข้ามาในน่านน้ำไทยอย่างไม่ถูกต้อง
เหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ หน่วยงานควบคุมความปลอดภัยท่าเรือจังหวัดพังงาได้รับการแจ้งเตือนจากหน่วยงานประมงในพื้นที่ว่า พบเรือประมงที่ไม่ทราบสัญชาติอยู่ห่างจากเกาะเกาะปะทิว จังหวัดพังงา ประมาณ 5.52 ไมล์ทะเล (เหนืออัฒจันทร์ 9°10′, ตะวันออก 98°30′) ซึ่งมีลักษณะไม่เหมือนเรือประมงที่มักพบในเขตน้ำทะเลนี้
หลังจากได้รับรายงาน ทางหน่วยงานควบคุมความปลอดภัยท่าเรือได้ประสานไปยังศูนย์ PIPO ที่เกาะกะปง และหน่วยงานประมงในท้องถิ่น เพื่อดำเนินการติดตามเรือดังกล่าว หลังจากนั้น ศูนย์รักษาสิทธิทางทะเลของประเทศไทยได้ส่งเรือXL 4015 พร้อมกับเรือประมงตรวจสอบหมายเลข 206 และเรือป้องกันชายฝั่งหมายเลข 271 และ 274 ไปยังพื้นที่ที่ถูกต้องเพื่อตรวจสอบ พร้อมมีการจัดส่งเครื่องบินลาดตระเวนทางอากาศเพื่อตรวจสอบข้อมูลร่วมกัน
ในที่สุด ทีมลาดตระเวนสามารถพบเรือที่ต้องสงสัยได้ที่ห่างจากเกาะคองเก้า จังหวัดระนองประมาณ 8.7 ไมล์ทะเล (เหนืออัฒจันทร์ 9°33.089′, ตะวันออก 98°34.642′) และได้ทำการตรวจสอบสถานการณ์อย่างละเอียดด้วยเรือXL 4015
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่า บริเวณส่วนหัวของเรือมีการเขียนชื่อเรือด้วยอักษรแดงในภาษาเมียนมา แต่เรือดังกล่าวไม่ได้แสดงธงชาติใดๆ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบเรือประมงเมียนมาที่มีพฤติกรรมต้องสงสัยอีกลำหนึ่ง ชื่อว่า “TRC 556 NGWE TOE HLAING 1”
การสอบสวนเพิ่มเติมพบว่าบนเรือประมงที่ต้องสงสัยมีลูกเรือชาวเมียนมาจำนวน 7 คน ซึ่งทั้งหมดมีบัตรประจำตัวประชาชนของเมียนมา โดยกัปตันเรืออ้างว่า เรือได้ออกจากเมืองมะละแหม่งในเมียนมาเมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา เพื่อขนส่งแผ่นยางไปยังปีนัง ประเทศมาเลเซีย และได้เดินทางกลับในวันที่ 27 มกราคม แต่ทั้งในเรือไม่มีร่องรอยของสินค้าใด ๆ ว่ามีการขนส่งแผ่นยางแต่อย่างใด นอกจากนี้ พบถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร และอุปกรณ์การเดินเรือเช่น เข็มทิศ GPS และโทรศัพท์มือถือจำนวน 6 เครื่อง (5 เครื่องเป็นสมาร์ทโฟนและ 1 เครื่องเป็นโทรศัพท์แบบดั้งเดิม)
พร้อมกันนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบเรือประมงที่มีชื่อว่า “TRC 556 NGWE TOE HLAING 1” ที่มีลูกเรือทั้งหมด 6 คน โดยหนึ่งในนั้นมีสัญชาติสองเท่า คือไทย-เมียนมา ชื่อ Tun Tun Linn วัย 59 ปี ส่วนอีก 5 คนเป็นชาวเมียนมา โดยพบว่าเรือได้ขนถังน้ำมันดีเซลจำนวน 8 ถัง (รวม 1,600 ลิตร) น้ำดื่ม อาหาร และเครื่องยนต์ 3 เครื่อง (1 ดีเซลและ 2 เบนซิน) รวมถึงถังน้ำมันอีก 5 ถัง ขนาด 30 ลิตร
จากการสอบถาม ลูกเรือระบุว่า พวกเขาได้รับการว่าจ้างจากเจ้าของเรือชาวเมียนมาชื่อ “อากู” เพื่อส่งน้ำมันและวัสดุต่างๆ ไปยังเรือประมงที่ซึ่งถูกติดต่อ ที่เรือได้ออกจากเมืองกองสูงในเมียนมาและเดินทางเข้าไปในน่านน้ำไทยเพื่อทำการเติมน้ำมันเมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 7 กุมภาพันธ์
กองเรือไทยจึงได้มีการจับกุมเรือประมงทั้งสองลำและบุคคลที่เกี่ยวข้องในข้อกล่าวหาต่างๆ ได้แก่:
1. ไม่สามารถแสดงเอกสารประจำตัวของลูกเรือและเอกสารการขนส่งสินค้าได้;
2. ไม่ได้แสดงธงชาติเมื่อเข้ามาในน่านน้ำไทย;
3. ไม่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนการศุลกากรและลักลอบขนน้ำมัน;
4. บุกรุกน่านน้ำไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต
ในขณะนี้ กองเรือได้ประสานเรือXL 271 และ 274 เพื่อนำเรือที่ถูกจับกุมและบุคคลที่เกี่ยวข้องกลับไปยังท่าเรือมัลติฟังก์ชันในระนอง เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
(แปลโดย: Juliette; ตรวจสอบโดย: wan; แหล่งที่มา: thaipost)