รับประทานอะไรเพื่อป้องกันตะคริว? แพทย์แนะนำ “วิตามิน 1 ชนิดและแร่ธาตุ 3 ชนิด” ที่ควรมีในอาหารของคุณ

08 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 21:52 น.    963

รับประทานอะไรเพื่อป้องกันตะคริว? แพทย์แนะนำ “วิตามิน 1 ชนิดและแร่ธาตุ 3 ชนิด” ที่ควรมีในอาหารของคุณ

หลายคนที่เคยประสบกับอาการตะคริวคงรู้ดีถึงความไม่สบายที่เกิดขึ้น อาการตะคริว หรือที่ในทางการแพทย์เรียกว่า "กล้ามเนื้อเกร็ง" มักเกิดขึ้นที่น่อง โดยสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการที่กล้ามเนื้อรับสัญญาณเคลื่อนไหวจากสมองแม้จะอยู่ในท่าที่สงบ ส่งผลให้กล้ามเนื้อเกิดการหดตัวโดยไม่มีการควบคุม อาการตะคริวนี้มักเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ออกกำลังกายหรือระหว่างการนอนหลับ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุที่มีความอ่อนแอของกล้ามเนื้อพบเจออาการนี้บ่อยครั้ง แพทย์จากคลินิก "DEZAWA AKIRA PED" ในจังหวัดคานagawa ประเทศญี่ปุ่น จึงได้มาแชร์เคล็ดลับในการป้องกันอาการตะคริวจากการปรับเปลี่ยนในด้านการรับประทานอาหาร

1. ใส่ใจในการเสริมความชุ่มชื้นให้ร่างกาย

การขาดน้ำส่งผลให้เกิดอาการตะคริวได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ออกกำลังกายหรือในระหว่างการนอน ซึ่งบางครั้งการสูญเสียน้ำจากการอาบน้ำ หรือการคลายเครียดอาจทำให้เกิดอาการขาดน้ำได้ คำแนะนำคือควรดื่มน้ำให้เพียงพอในช่วงเวลากลางวันและหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ก่อนเข้านอน เนื่องจากแอลกอฮอล์มีแนวโน้มทำให้เกิดการขาดน้ำและความไม่สมดุลของอิเล็กโทรไลต์ได้

2. เสริมวิตามิน K2

ผลการวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร JAMA Internal Medicine ของสหรัฐอเมริกา ได้แสดงให้เห็นว่าวิตามิน K2 สามารถช่วยป้องกันอาการตะคริวในผู้สูงอายุ โดยนักวิจัยชี้ให้เห็นว่าวิตามิน K2 มีคุณสมบัติในการบรรเทาอาการปวดประสาทและสามารถช่วยลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อได้ วิตามิน K2 พบในอาหารหมักเช่น นัตโต้และชีส

3. ควบคุมความสมดุลของแร่ธาตุ

การขาดวิตามินและแร่ธาตุอาจทำให้เกิดความไม่สมดุลของอิเล็กโทรไลต์ ส่งผลให้กล้ามเนื้อเกิดการเกร็งได้ โดยเฉพาะแร่ธาตุสำคัญสามชนิด ได้แก่ แคลเซียม โพแทสเซียม และแมกนีเซียม ที่มีบทบาทต่อการควบคุมการหดตัวของกล้ามเนื้อและการส่งสัญญาณประสาท สามารถได้รับจากอาหารธรรมชาติ เช่น ปลาหมึกแห้ง งา ถั่ว และสาหร่าย ซึ่งมีแมกนีเซียมสูง ขณะที่ผลิตภัณฑ์นม สินค้าโปรตีนจากพืชรวมถึงปลาที่มีกรอบกระดูกจะแหล่งแคลเซียมที่ดี

แต่ควรระวังว่าการบริโภคแคลเซียมมากเกินไปอาจขัดขวางการดูดซึมของแมกนีเซียม ซึ่งในสัดส่วนที่เหมาะสม ระหว่างแมกนีเซียมกับแคลเซียมควรอยู่ที่ 1:2 หรือ 1:3 ตัวอย่างเช่น ผู้ชายในวัยกลางคนควรต้องการแมกนีเซียมประมาณ 310 มิลลิกรัมและแคลเซียม 600 มิลลิกรัมในแต่ละวัน ในการบริโภคได้รับแมกนีเซียมจากปลาหมึกแห้งประมาณ 200 กรัม และได้แคลเซียมจากนมครึ่งลิตรและเต้าหู้หนึ่งชิ้น

ข้อมูลอ้างอิงจาก: คลินิก DEZAWA AKIRA PED, Modern Weekly