ตำรวจไทยจับกุมผู้ต้องสงสัยสองรายในคดีฉ้อโกงออนไลน์ พบว่าเจ้าของธุรกิจอยู่เบื้องหลังเป็นชาวจีน

03 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 18:09 น.    698

ข่าวจากสำนักข่าวไทยรายงานว่า เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจกลางประเทศไทยได้จัดการแถลงข่าวเกี่ยวกับความสำเร็จในการจับกุมสมาชิกของกลุ่มคบคิดอาชญากรรมทุกรูปแบบ โดยเฉพาะกลุ่มที่ใช้วิธีการหลอกลวงที่เกี่ยวข้องกับโทรคมนาคม ซึ่งมีเหยื่อเป็นจำนวนมาก

ตำรวจไทยเพิ่งสามารถจับกุมกลุ่มอาชญากรรมที่แอบอ้างเป็นตำรวจ โดยกลุ่มนี้ได้รับการระบุว่าเป็นกลุ่มที่มีต้นกำเนิดจากกัมพูชา มีการกระทำผิดหลายกรณีรวมถึง 163 คดี โดยมีผู้เสียหายที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก จากการสืบสวนอย่างละเอียดตำรวจก็สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 2 รายเมื่อวันที่ 30 มกราคมและวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่จังหวัดสระแก้วและจังหวัดชลบุรีตามลำดับ

จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่ากลุ่มอาชญากรรมนี้ประกอบไปด้วยสมาชิกที่มาจากประเทศไทยและประเทศจีน มีการจัดระบบการทำงานอย่างเป็นระเบียบ โดยผู้ต้องสงสัยคนแรกคือ รามิล อายุ 31 ปี ซึ่งมีหน้าที่ใช้ระบบ Sim Box เพื่อดึงข้อมูลของเหยื่อ จากนั้นจะทำการโทรตามบทสคริปต์ที่มีการแจกจ่ายให้จากผู้บังคับบัญชา เพื่อหลอกลวงเหยื่อให้ค่อย ๆ เชื่อตาม หลักจากนั้น เขาจะส่งข้อมูลไปให้กับสมาชิกกลุ่มอีกคนที่อยู่ใน “สายการหลอกลวง” เพื่อดำเนินการต่อไป

ผู้ต้องสงสัยคนที่สองคือ ทานาวุฒิ ซึ่งมีหน้าที่แอบอ้างเป็นตำรวจ โดยใช้การสนทนาวิดีโอเพื่อกดดันเหยื่อ โดยอ้างว่าเกี่ยวข้องกับคดีอาญา และทำการปลอมแปลงเอกสารอย่างเป็นทางการเพื่อใช้ในการข่มขู่ เพื่อที่จะเดินนำไปสู่การเรียกร้องเงินภายใต้ข้ออ้างดังกล่าว มีการค้นพบว่าเขาได้เคยใช้วิธีการเช่นนี้ในการหลอกลวงสาธารณชนหลายครั้ง และในระหว่างกระบวนการหลอกลวงก็มีการใช้ “สมาชิกสายสนับสนุน” เพื่อช่วยในการผลักดันให้เหยื่อโอนเงินต่อไป

จากการให้ปากคำของผู้ต้องสงสัย พบว่ากลุ่มนี้มีการทำงานร่วมกันระหว่างสมาชิกจากประเทศไทยและจีน โดยมีบุคคลสำคัญที่เป็นชาวจีนเป็นผู้กำหนดบทบาทของการหลอกลวง และมีการควบคุมและดำเนินการหลอกลวงทั้งหมด ว่ากันว่า ถ้าหากสมาชิกใครทำตามคำสั่งไม่ได้ อาจจะถูกคุกคามถึงชีวิตได้ โดยแต่ละการหลอกลวงจะมีการเตรียมการอย่างครบถ้วน เช่น การหาข้อมูล การกดดันทางวิดีโอ การควบคุมจิตใจ และการโอนเงิน เพื่อให้การหลอกลวงสำเร็จลุล่วง

ตำรวจกลางของไทยรายงานว่าการจับกุมครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการต่อสู้กับอาชญากรรมเกี่ยวกับการหลอกลวงทางโทรศัพท์ แต่มีสมาชิกของกลุ่มนี้อีกหลายคนที่ยังอยู่ระหว่างการหลบหนี ตำรวจจะดำเนินการสืบสวนต่อไป เพื่อหวังจะจับกุมสมาชิกเพิ่มเติม และมีการสร้างการรับรู้และป้องกันการหลอกลวงในประชาชน เพื่อไม่ให้มีผู้เสียหายอีกต่อไป

โครงการตำรวจกลางยังได้ให้คำแนะนำกับประชาชนเกี่ยวกับการสังเกตสัญญาณที่จะช่วยระบุว่าเป็นการกระทำของตำรวจจริงหรือไม่ ดังนี้

  1. ตำรวจจริงจะไม่ติดต่อสอบถามหรือกล่าวหาเหยื่อผ่าน LINE หรือวิดีโอคอล
  2. ตำรวจจะไม่ขอให้เหยื่อโอนเงินหรือส่งทรัพย์สินเพื่อเป็นการพิสูจน์ความบริสุทธิ์
  3. ตำรวจจะไม่ส่งเอกสารทางการของรัฐ เช่น หมายเรียกหรือหมายจับผ่านทาง LINE

ตำรวจยังได้ขอร้องให้ประชาชนหากพบเห็นการกระทำปลอมแปลงเป็นตำรวจในลักษณะนี้ ควรทำการแคปหน้าจอหรือบันทึกวิดีโอเพื่อนำไปแจ้งสำนักงานตำรวจกลาง เพื่อช่วยในการสืบสวนและการต่อสู้กับกลุ่มอาชญากรรมนี้