04 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 15:33 น. 66
แนวคิดเรื่องการคัดเลือกและลดสิ่งของ หรือที่เรียกว่า "Dan Sha Li" เป็นแนวทางที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ซึ่งมีรากฐานมาจากวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่เน้นการเล่นตามหลักการอย่างมีระเบียบและการใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า แต่วิธีการที่จะโน้มน้าวให้คนในครอบครัว โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เพื่อจัดการสิ่งของที่สะสมมายาวนานนั้น กลับเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ท้าทาย โดยข้อมูลจากแบรนด์การจัดระเบียบชื่อดังของญี่ปุ่น 伊藤まき (Maki Ito) ได้แบ่งปันเทคนิคสำคัญในการจัดการกับสถานการณ์นี้ในสื่อญี่ปุ่น。
ในบทความที่นำเสนอโดย สำนักข่าว Hint Pot ได้มีการแสดงถึงความสำคัญของการทำความสะอาดบ้านในช่วงที่ผู้สูงอายุยังมีสุขภาพดี และแชร์เทคนิคการกระตุ้นการทำความสะอาดให้เกิดขึ้นในบรรยากาศที่ดีและไม่กดดัน โดยเฉพาะในสังคมญี่ปุ่นที่มีแนวโน้มสูงขึ้นในการสูงวัย การคัดเลือกและจัดระเบียบสิ่งของจึงมีความจำเป็นมากขึ้น
1. การทำทีละขั้นตอน
เมื่อผู้ปกครองมีความผูกพันกับสิ่งของที่พวกเขาสะสมมา การบังคับให้จัดการอาจนำไปสู่ความขัดแย้งได้ ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดคือเริ่มต้นจากการจัดระเบียบสิ่งของที่ตนเองทิ้งไว้ในบ้านเก่า หรือลงมือจัดระเบียบพื้นที่เล็ก ๆ ก่อน เมื่อเห็นว่ามีพื้นที่ว่างเพิ่มขึ้น จะช่วยให้บรรยากาศดีขึ้นและทำให้ผู้ปกครองเริ่มรู้สึกว่าการจัดเรียงของมีความสำคัญและน่าสนใจมากขึ้น
2. การสอบถามอย่างสุภาพ ไม่ใช่การสั่งการ
เมื่อผู้ปกครองเริ่มมีความตั้งใจในการทำความสะอาดบ้าน สามารถเริ่มช่วยจัดการพื้นที่อื่นได้ แต่ไม่ควรใช้เสียงสั่งการ การทิ้งสิ่งของที่ไม่มีค่าในสายตาของบุตรหลาน อาจหมายถึงการสูญเสียความทรงจำหรือสิ่งของที่มีคุณค่าหมายถึงอดีต สำหรับผู้สูงอายุ ดังนั้น ควรสอบถามว่าบุคคลเหล่านั้นซื้อสิ่งของมาที่ราคาเท่าไหร่ และให้พูดคุยเกี่ยวกับการที่สามารถนำไปขายหรือตัดสินใจนำทิ้งได้。
3. เปลี่ยนอารมณ์ที่ติดอยู่
แนะนำให้บุตรหลานบอกผู้ปกครองว่าการนำสิ่งของที่ไม่ต้องการไปขายที่ตลาดมือสองหรือเว็บไซต์สามารถสร้างรายได้ แม้ว่าราคาขายจริงอาจไม่สูง แต่การอธิบายว่าอาจได้อะไรบ้าง จะช่วยให้ผู้สูงอายุเปลี่ยนความคิดที่ว่า "การทิ้งคือการสูญเสีย" เป็น "การขายคือการสร้างรายได้" ที่ทำให้เกิดแรงจูงใจในกระบวนการนี้
นอกจากนี้ นักจัดระเบียบยังได้เน้นย้ำว่า การเปลี่ยนแปลงสถานที่อยู่อาศัยจะส่งผลต่ออารมณ์ของผู้สูงอายุ บุตรหลาน หรือแม้แต่สัตว์เลี้ยงในบ้านด้วย ดังนั้น ควรทำอย่างค่อยเป็นค่อยไปเพื่อลดความเครียดในครอบครัว
ในบางกรณี บางคนอาจตัดสินใจจ้างผู้เชี่ยวชาญมาช่วยทำความสะอาด แต่จะพบว่าแม้แต่ผู้จัดระเบียบมืออาชีพก็อาจมีความยากในการโน้มน้าวผู้สูงอายุให้ยอมรับการทิ้งสิ่งของที่ไม่จำเป็น ดังนั้น การที่บุตรหลานหรือสมาชิกในครอบครัวนำเสนอการจัดระเบียบและแสดงประโยชน์ที่เกิดขึ้น จะทำให้การจัดระเบียบบ้านของผู้สูงอายุเป็นไปได้ง่ายขึ้นอย่างมาก
การจัดระเบียบบ้านไม่เพียงแต่ทำให้สถานที่อยู่อาศัยดูดีขึ้น แต่ยังช่วยสร้างคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นสำหรับทุกคนในครอบครัว ดังนั้น การสื่อสารและความเข้าใจระหว่างสมาชิกในครอบครัวจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ที่จะสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและช่วยกันแสดงความคิดเห็นในกระบวนการนี้
แหล่งข่าว: health.udn.com