อากาศหนาวแช่เท้าอาจทำให้ความดันโลหิตลด เสี่ยงเวียนศีรษะ! แพทย์แนะนำวิธีป้องกันการล้มหลังแช่เท้า 2 ขั้นตอนสำคัญ

03 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 08:26 น.    728

อากาศหนาวแช่เท้าอาจทำให้ความดันโลหิตลด เสี่ยงเวียนศีรษะ! แพทย์แนะนำวิธีป้องกันการล้มหลังแช่เท้า 2 ขั้นตอนสำคัญ

ในฤดูหนาว การแช่เท้าในน้ำร้อนช่วยกระตุ้นจุดฝ่าเท้าที่สัมพันธ์กับอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย ซึ่งส่งผลให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดีขึ้น การคลายความตึงเครียดหลังจากวันทำงานที่หนักหน่วง และสามารถนำไปสู่การนอนหลับที่ดีขึ้น กลายเป็นหนึ่งในวิธีการดูแลสุขภาพยอดนิยมในช่วงฤดูหนาว แต่คำถามที่หลายคนสงสัยคือ อุณหภูมิของน้ำแช่เท้าที่เหมาะสมคือเท่าไหร่? ควรระวังข้อเสียอะไรบ้าง? และใช้เวลาแช่เท้านานเท่าไร? แพทย์แผนจีนให้คำแนะนำเกี่ยวกับประเด็นเหล่านี้

การแช่เท้าช่วยในการขับสารพิษได้จริงหรือไม่? สามารถทำทุกวันได้ไหม? นายแพทย์ ฮายาชิ ชุนโกะ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากแผนกการแพทย์แผนจีน โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติกรุงเทพฯ กล่าวว่า แม้ว่าการแช่เท้าจะดูเหมือนเป็นกิจกรรมที่ง่าย ๆ แต่ก็แฝงไปด้วยความเสี่ยงบางประการ เช่น ความดันโลหิตต่ำ หรือการลื่นล้มจากพื้นเปียก หากไม่ระมัดระวังอาจจะเกิดอันตรายได้ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีปัญหาด้านระบบหัวใจและหลอดเลือด หากน้ำอุ่นมีอุณหภูมิสูงเกินไปหรือใช้เวลานานเกินไป อาจทำให้เกิดความร้อนสูงเกินไปในร่างกาย

หลังจากแช่เท้า ความดันโลหิตจะลดลง ไม่ควรลุกขึ้นยืนทันที นายแพทย์ ฮายาชิ ชุนโกะ ชี้แจงว่า การแช่เท้าในน้ำร้อนจะทำให้หลอดเลือดที่ขาขยายตัว ส่งผลให้เลือดไหลไปยังส่วนปลายของร่างกาย ซึ่งอาจทำให้ความดันโลหิตของร่างกายโดยรวมลดต่ำลงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อลุกขึ้นยืนทันที จะเสี่ยงที่จะเกิดอาการความดันโลหิตต่ำจากท่าทาง ทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะหรือมองเห็นภาพไม่ชัด รวมถึงมีความเสี่ยงที่จะล้มได้

นายแพทย์ ฮายาชิ ชุนโกะ แนะนำว่า หลังจากแช่เท้าควรนั่งพักสัก 3-5 นาที เพื่อให้ร่างกายมีเวลาปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิอย่างเหมาะสม และควรหลีกเลี่ยงการลุกขึ้นยืนทันที สาหร่ายผู้สูงวัยหรือผู้ป่วยที่มีโรคระบบหัวใจและหลอดเลือด ควรควบคุมอุณหภูมิของน้ำแช่เท้าให้อยู่ที่ประมาณ 37-40 องศาเซลเซียส ห้ามใช้ความร้อนมากเกินไป

พื้นวางเท้าเปียกจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการลื่นล้ม นายแพทย์ ฮายาชิ ชุนโกะ กล่าวว่าหลังจากแช่เท้า เท้าจะมีความชื้นสูง ซึ่งทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการลื่นล้ม อีกทั้งสภาพแวดล้อมที่เย็นก็อาจทำให้เกิดอาการเย็นบริเวณนั้นได้ โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีความสมดุลน้อย ผู้ที่มีอายุมากกว่า จึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เขาแนะนำว่า ควรเช็ดเท้าให้แห้งด้วยผ้าขนหนูอย่างละเอียด นั่งพักสักครู่เพื่อรอให้เหงื่อหรือไอน้ำจากเท้าหมดไป จากนั้นให้เช็ดให้แห้งอีกครั้ง ก่อนมีการเดินเคลื่อนไหวควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าวัสดุที่พื้นถูกต้องและไม่ทำให้เกิดการลื่นไถล

นายแพทย์ ฮายาชิ ชุนโกะ ยังเตือนด้วยว่า แม้การแช่เท้าจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพและช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย แต่ไม่ควรแช่ในน้ำเป็นเวลานานโดยทั่วไปแนะนำให้แช่ประมาณ 15-20 นาที และตรวจสอบอุณหภูมิของน้ำให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงความร้อนที่สูงเกินไปซึ่งอาจทำให้เกิดความเครียดในร่างกายหรือน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดความไม่สบายได้ เมื่อดูแลสุขภาพ อย่าลืมให้ความสำคัญกับความปลอดภัย เพื่อให้การแช่เท้าเป็นความสุขจริง ๆ ในการดูแลสุขภาพของเรา

【บทความนี้ได้รับการอนุญาตจาก uho เว็บไซต์สุขภาพเพื่อการเผยแพร่。เว็บไซต์ต้นฉบับ:https://www.uho.com.tw/article-65634.html