เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของไทย นายพิชัย นริพทะพันธุ์ ได้เปิดเผยว่า ในระหว่างการหารือที่เกิดขึ้นในช่วงการประชุม World Economic Forum กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของบาห์เรน นายอับดุลลาห์ อาเดล ฟัคโคร (Abdulla Adel Fakhro) ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงที่จะร่วมมือกันเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางด้านความมั่นคงทางอาหารในภูมิภาคตะวันออกกลาง และผลักดันการทำข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ระหว่างไทยกับบาห์เรน เพื่อเพิ่มพูนการค้าและการลงทุนระหว่างกัน

นายพิชัยกล่าวเพิ่มเติมว่า ประเทศไทยและบาห์เรนกำลังพิจารณาความเป็นไปได้ในการลงนามใน FTA ซึ่งเขาเชื่อมั่นว่า ข้อตกลงนี้จะเปิดโอกาสใหม่ ๆ สำหรับผลิตภัณฑ์ไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าการเกษตร อาหารฮาลาล รวมถึงอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง โดยมีเป้าหมายเพื่อขยายตลาดในภูมิภาคอาหรับ อีกทั้งเศรษฐกิจของไทยกำลังเดินเข้าสู่ช่วงการพัฒนาทองคำ โดยนโยบายทางเศรษฐกิจของรัฐบาลไทยได้ช่วยผลักดันการส่งออกให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ในปี 2024 คาดว่ามูลค่าการส่งออกของไทยจะอยู่ที่ 10.5 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในประวัติศาสตร์ และคาดการณ์ว่าในปี 2025 จะมีการเติบโตขึ้นอีก 2-3% โดยกระทรวงพาณิชย์จะยังคงเดินหน้าส่งเสริมความร่วมมือทางการค้าและการลงทุนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับนานาชาติ

ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ของไทยเปิดเผยว่า บาห์เรนเป็นประเทศคู่ค้ารายที่ 9 ของไทยในภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งมูลค่าการค้าระหว่างกันอยู่ที่ 542.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกสินค้าหลักไปยังบาห์เรน ได้แก่ รถยนต์ อัญมณี เครื่องจักร และผลิตภัณฑ์ยาง ขณะที่สินค้านำเข้าจากบาห์เรนเป็นผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูป แร่โลหะ ปุ๋ย และผลิตภัณฑ์ทางทะเล

นอกจากนี้สำหรับการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ไทยและบาห์เรนยังมีแผนที่จะจัดตั้งคณะกรรมการควบคุมร่วม (Joint Steering Committee) เพื่อร่วมกันกำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการค้าขาย การลงทุน และความมั่นคงด้านอาหาร ซึ่งจะช่วยเปิดโอกาสทางเศรษฐกิจให้ทั้งสองประเทศเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

（ที่มา：posttoday)