ปลูกง่ายและได้ผล! 4 เทคนิคสำคัญเพื่อเพาะปลูกผักผลไม้ในบ้านอย่างมืออาชีพ

02 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 13:29 น.    682

ปลูกง่ายและได้ผล! 4 เทคนิคสำคัญเพื่อเพาะปลูกผักผลไม้ในบ้านอย่างมืออาชีพ

แม้จะไม่มีสวนหลังบ้าน แต่การใช้ประโยชน์จากพื้นที่ภายในบ้านก็สามารถทำให้เราสามารถปลูกผักและผลไม้ได้ ไม่ต้องลำบากออกจากบ้านในช่วงฤดูหนาวก็สามารถทานผักสดใหม่ได้ตามต้องการ รายงานจาก Parade Home and Garden ระบุว่า การปลูกพืชในบ้านนั้นมีประโยชน์มากมาย ซึ่งช่วยให้เราสามารถอิ่มเอมกับวัตถุดิบที่สดใหม่ตลอดทั้งปี โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับสภาพอากาศที่เลวร้ายหรือแมลงที่จะทำให้ผลผลิตเสียหาย เพียงแค่ใช้อุปกรณ์ที่ไม่ยุ่งยาก เลือกพันธุ์พืชที่เหมาะสม และมีความอดทน ทั้งมือใหม่และมือเก่าก็สามารถเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตภายในไม่กี่สัปดาห์ได้

ในการเลือกพืช ควรคำนึงถึงพื้นที่แสงสว่าง และระยะเวลาในการเจริญเติบโต ผักใบเขียว เช่น ผักโขม กะหล่ำปลี ผักกาดหอม และกรีนมัสซิโอะ เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น เนื่องจากเติบโตง่ายและใช้เวลาไม่มากในการปลูก นอกจากนี้ยังมีพืชสมุนไพรที่ต้องการแสงแดดและอากาศอบอุ่นอย่างโหระพา, มินต์ที่ต้องการน้ำในปริมาณที่พอเหมาะ, ไธม์ที่ไม่ต้องการการรดน้ำบ่อยนัก และเสจที่จึงมีความจำเป็นต้องได้รับแสงแดด

นอกจากนี้ หากมีภาชนะที่ลึกพอ เราสามารถปลูกพืชประเภทหัวเช่นแครอทได้ ซึ่งสามารถเก็บเกี่ยวได้ภายใน 3-4 สัปดาห์ นอกจากนี้ด้วยภาชนะที่ลึกพอเรายังสามารถปลูกมูลและบีทได้อีกด้วย

หากได้ผลผลิตจากการปลูกพืชในบ้านแล้ว และต้องการสร้างความท้าทายใหม่ ลองปลูกพืชผลที่ต้องการการดูแลมากขึ้น เช่น มะเขือเทศ, พริกหวาน และสตรอว์เบอร์รี พันธุ์มะเขือเทศขนาดเล็กเช่น "Tiny Tim" เหมาะสำหรับการปลูกในบ้านเนื่องจากต้องการแสงแดดถึง 12 ถึง 16 ชั่วโมงต่อวัน แต่พริกหวานและพริกเผา รวมทั้งสตรอว์เบอร์รีก็ต้องการแสงแดดเต็มที่เช่นกัน

การสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมก็เป็นเรื่องสำคัญ ส่วนใหญ่ผักต่างๆ ต้องการปลูกในภาชนะที่มีความลึก 6 ถึง 12 นิ้ว โดยก้นภาชนะควรมีรูระบายน้ำเพื่อลดโอกาสที่รากจะเน่าเนื่องจากน้ำขัง หากแสงธรรมชาติไม่เพียงพอ อาจต้องใช้ไฟฟลูออเรสเซนต์, หลอด LED หรือไฟเพดานที่เลียนแบบแสงธรรมชาติ เพื่อช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืช

ในการเตรียมดิน ควรเลือกดินที่มีคุณภาพสูงและระบายน้ำได้ดี โดยเฉพาะสำหรับการปลูกผักและผลไม้ ต้องหลีกเลี่ยงการใช้ดินจากสวนโดยตรง เพราะอาจมีแมลงและเชื้อโรคที่ไม่พึงประสงค์ ดินปลูกมักจะขาดสารอาหารที่พืชต้องการ จึงต้องมีการใส่ปุ๋ยอินทรีย์อย่างสม่ำเสมอ โดยทั่วไปแล้ว ความชื้นในบ้านจะมีความเสถียรมากกว่าด้านนอก ดังนั้นจึงสามารถรดน้ำเพียงแค่ให้ดินชุ่มได้

หากอากาศในบ้านแห้งเนื่องจากการเปิดเครื่องทำความร้อน สามารถใช้เครื่องเพิ่มความชื้นขนาดเล็ก หรือวางจานน้ำไว้ข้างๆ พืชเพื่อเพิ่มความชื้น ในขณะที่ผักส่วนใหญ่จะชอบอุณหภูมิประมาณ 60-70 องศา ฟาเรนไฮต์ จึงควรหลีกเลี่ยงการวางให้ใกล้แหล่งความร้อนและต้องการให้มีการระบายอากาศดี โดยอาจใช้พัดลมขนาดเล็กวางใกล้ๆ เพื่อลดโอกาสเกิดแมลงและเชื้อรา รวมถึงสามารถช่วยในการผสมเกสรได้อีกด้วย

เมื่อสร้างสวนในบ้านเสร็จสิ้นแล้ว ต้องใส่ใจในเรื่องการรดน้ำ แสงแดด การผสมเกสร การตัดแต่ง และการเก็บเกี่ยว โดยเฉพาะในการรดน้ำ ควรทำอย่างระมัดระวังต้องรดที่โคนต้นให้ห่างจากใบเพื่อหลีกเลี่ยงการเน่า หากพืชเติบโตขึ้นแล้ว ควรปรับระยะห่างระหว่างแสงไฟและพืชให้เหมาะสม

หากต้องการให้พืชออกผล อาจต้องใช้มือในการเขย่าต้นหรือลูกค้าสามารถใช้แปรงขนาดเล็กช่วยในการผสมเกสรดอกไม้ได้สุดท้าย การตัดแต่งให้พืชเจริญเติบโตโดยเฉพาะอย่างยิ่งผักใบเขียวจะทำให้พืชเติบโตได้ดีขึ้น