02 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 03:27 น. 124
ตู้เย็นถือเป็นเพื่อนที่สำคัญในการเก็บรักษาวัตถุดิบอาหาร ที่บ้านหลายหลังในช่วงสิ้นปีตามปฏิทินจันทรคติจะมีการทำความสะอาดตู้เย็นอย่างจริงจัง เนื่องจากหลายคนมักจะใช้ช่องแช่แข็งเป็นที่เก็บของหรือวัตถุดิบที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน ซึ่งส่งผลให้ช่องแช่แข็งดูยุ่งเหยิงและมีอาหารบางรายการถูกลืมไว้นานหลายปีโดยไม่คิดจะนำมาใช้เลย
จากรายงานของ Eating Well กล่าวไว้ว่า หากช่องแช่แข็งของคุณสกปรกและยุ่งเหยิง ก็ควรมีการทำความสะอาดอย่างจริงจัง แต่การตัดสินใจว่าควรทิ้งหรือล оставить อะไรนั้นอาจทำให้เกิดความสับสนได้ โดยผู้เชี่ยวชาญได้ชี้แจงถึงหกประเภทของอาหารที่ควรจัดการทิ้งในทันที
1. อาหารที่ถูกแช่แข็งซ้ำ
การนำอาหารออกมาปรุงแต่ตัดสินใจที่จะรับประทานนอกบ้านแทน โดยนำอาหารนั้นกลับไปแช่แข็งอีกครั้ง เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะการละลายน้ำแข็งแล้วแช่แข็งซ้ำจะเพิ่มโอกาสในการเกิดแบคทีเรียได้ โดยวิธีที่ดีที่สุดในการละลายนั้นควรจะปล่อยให้มันละลายในตู้เย็น หากเกิดเหตุการณ์ที่ต้องนำอาหารที่ละลายแล้วกลับไปแช่แข็งอีก ให้ทำในเวลาที่เร็วที่สุดและควรทำในระยะเวลาไม่เกินสองชั่วโมงหลังจากละลาย
สำหรับการเก็บรักษาอาหาร ควรแยกเป็นส่วนเล็กๆ ก่อนแช่แข็ง เพื่อสะดวกในการนำออกมาใช้ในอนาคต นอกจากนี้ยังควรรีบขับอากาศออกจากภาชนะให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อป้องกันอาหารที่แช่แข็งไม่ให้เกิดอาการเยือกแข็งที่อาจทำให้เสื่อมคุณภาพในภายหลัง
2. อาหารเหลือที่ถูกลืม
มักพบว่าหลายครั้งอาหารถูกผลักเข้าไปอยู่ในมุมตู้เย็น หรือลืมอาหารเหลือที่บรรจุไว้ในกล่อง ส่งผลให้อาหารนั้นมีอายุกว่าจะมีการนำกลับมาใช้งานและเก็บไว้นานหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนตามข้อมูลของกระทรวงการเกษตร อาหารแช่แข็งควรบริโภคภายในสามถึงสี่เดือน หากมีอาหารอยู่ในตู้เย็นนานกว่า six months ควรตัดสินใจทิ้งโดยไม่ลังเล
3. อาหารที่เกิดการเยือกแข็ง
ถ้าหากพื้นผิวของอาหารเต็มไปด้วยผลึกน้ำแข็ง อาจทำให้อาหารนั้นมีรสชาติที่ไม่ค่อยพึงประสงค์ อาหารที่มีอาการเยือกแข็งไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ แต่กลับไม่อร่อยหรือไม่น่ารับประทาน สียังเปลี่ยนและดูไม่ appetizing
เพื่อป้องกันการเกิดอาการเยือกแข็ง ควรให้ความสำคัญที่การทำให้เย็นก่อนแช่แข็ง ช่วยขับอากาศออกจากภาชนะ และควรทานอาหารที่แช่แข็งในช่วงเวลาสามถึงหกเดือน อย่างไรก็ตามหากต้องการกินอาหารที่เกิดการเยือกแข็ง ควรทำเป็นสมูทตี้หรือซุป เพื่อกลบเกลื่อนความแตกต่างของสีและเนื้อสัมผัส
4. น้ำแข็งที่มีกลิ่นแปลก
น้ำแข็งที่ผลิตใหม่จะไม่มีรสชาติ แต่หากทิ้งไว้นาน น้ำแข็งสามารถดูดซับกลิ่นจากอาหารรอบข้างได้ ซึ่งกลิ่นนี้ไม่สามารถกำจัดออกได้ วิธีที่ดีที่สุดคือทิ้งน้ำแข็งที่มีปัญหาแล้วทำใหม่ขึ้นมา อีกทางเลือกหนึ่งคือการซื้อถาดน้ำแข็งที่มีฝาปิดเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้
5. ไอศกรีมที่เก็บไว้นาน
ที่บ้านมักพบว่าทุกคนไม่ค่อยจะกล้ากินไอศกรีมหนึ่ง quart ให้หมดในครั้งเดียว ทำให้มักจะมีไอศกรีมเหลือแบบไม่เต็มกล่องในช่องแช่แข็ง เมื่อเวลาผ่านไปไอศกรีมนั้นจะสูญเสียรสชาติทำให้ไม่อร่อย คุณภาพของไอศกรีมจะคงที่ประมาณสามเดือน ดังนั้น ควรให้ความสนใจที่วันหมดอายุบนบรรจุภัณฑ์ และไม่ต้องอายในการทานไอศกรีมให้หมดในครั้งเดียว เพราะการรับประทานอาหารที่ดีอยู่ในท้องของเรา ดีกว่าทิ้งให้ไว้อยู่ในถังขยะแน่นอน
6. ขนมเค้กที่มีครีมหรือชีส
เมื่อถึงช่วงเทศกาลวันหยุดและอากาศเย็น ผู้คนมักจะเริ่มทำขนมอบ จึงทำให้มีขนมเต็มบ้าน หากขนมเหล่านั้นไม่ถูกกินหมดก็จะถูกแช่แข็ง สำหรับขนมอบทั่วไปสามารถเก็บได้ประมาณสามถึงหกเดือน แต่ขนมเค้กที่มีครีมหรือชีสควรทานภายในระยะเวลาไม่เกินหนึ่งเดือน เพราะการเก็บไว้นานอาจทำให้เกิดการแยกตัวของวัตถุดิบ ส่งผลต่อรสชาติและเนื้อสัมผัส