คุณเคยตั้งคำถามตัวเองไหมว่า เมื่อคุณตื่นขึ้นมาทุกวัน สิ่งแรกที่คุณทำคืออะไร? หลายคนอาจจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาใช้งานทันที แต่นักวิชาการได้เตือนว่าพฤติกรรมนี้อาจจะทำลายวันแห่งการทำงานของคุณ ผลกระทบนี้อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานตลอดทั้งวัน และเพื่อรับมือกับปัญหานี้ นักจิตวิทยามีคำแนะนำเกี่ยวกับกิจกรรมที่สามารถช่วยให้สมองของคุณมีความชัดเจนมากขึ้นในช่วงเช้า

เจย์ ไร นักจิตวิทยาผู้มีชื่อเสียง ได้ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Forbes และอธิบายกระบวนการทำงานของสมองในช่วงตื่นนอนว่า เมื่อเราตื่นจากการนอน สมองจะปรับจาก สถานะคลื่น δ (delta) ไปยัง สถานะคลื่น θ (theta) ซึ่งเป็นช่วงที่เรายังไม่ตื่นเต็มที่และกำลังอยู่ในอารมณ์ฝัน จากนั้นจะเข้าสู่ สถานะคลื่น α (alpha) ซึ่งเป็นช่วงที่เราตื่นแต่ยังไม่สามารถประมวลผลข้อมูลได้อย่างเต็มที่ สุดท้ายจะมาถึง สถานะคลื่น β (beta) ซึ่งหมายถึงการตื่นเต็มที่และพร้อมที่จะรับสิ่งใหม่ๆ

อย่างไรก็ตาม หากคุณเริ่มต้นวันด้วยการหยิบมือถือขึ้นมาใช้ คลาดเคลื่อนจากช่วงเวลาปกติ สัญญาณที่ส่งไปยังสมองจะกระโดดจาก δ ไปยัง β โดยตรง ส่งผลให้เกิดความเครียดที่ไม่จำเป็น ซึ่งอาจนำไปสู่ความรู้สึกวิตกกังวลและหงุดหงิด ทำให้คุณอดรู้สึกว่าประสิทธิภาพการทำงานของคุณลดลงตลอดทั้งวัน

จากคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ ควรที่จะรอประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมงหลังจากตื่นนอนก่อนที่จะใช้โทรศัพท์มือถือ บางคนอาจจะใช้โทรศัพท์เป็นนาฬิกาปลุก โดยนักวิชาการเสนอให้ตั้งโทรศัพท์ในโหมดเครื่องบิน ซึ่งจะยังคงมีการทำงานของนาฬิกาปลุก แต่จะไม่สามารถรับข้อความหรือการแจ้งเตือนได้ อีกทางเลือกที่ดีกว่าคือการใช้ นาฬิกาปลุกแบบธรรมดา และปิดโทรศัพท์หรือวางโทรศัพท์ไว้ในห้องอื่นขณะชาร์จ เพื่อป้องกันการล่อลวงจากองค์ประกอบดิจิทัล

หากคุณตื่นขึ้นมาในตอนเช้าโดยไม่มีแผนการที่ชัดเจน ก็อาจจะทำให้กลับไปใช้โทรศัพท์ได้ง่าย นักวิชาการจึงขอแนะนำกิจกรรมที่มีประโยชน์ในช่วงเช้า ซึ่งสามารถช่วยลดความเครียด และเพิ่มสมาธิและประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น แนวทางเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะช่วยกระตุ้นความคิดให้ชัดเจนขึ้น แต่ยังส่งเสริมสุขภาพจิตของคุณให้ดีขึ้นทีเดียว

ข้อมูลเพิ่มเติมจาก / Forbes