01 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 23:06 น. 196
การรักษาสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรให้ความสนใจ โดยมีหลากหลายวิธีในการส่งเสริมสุขภาพที่ดี เช่น การรับประทานอาหารที่เหมาะสม การควบคุมน้ำหนัก การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การจัดการสุขภาพจิต และการตรวจสุขภาพเป็นประจำ ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องใช้ความพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดี โดย ดร. Howard E. LeWine แพทย์จากโรงเรียนแพทย์ฮาร์วาร์ด ได้จัดทำรายชื่อ 10 นิสัยที่ควรมีเพื่อรักษาสุขภาพที่ดี แม้ว่าการจะปฏิบัติตามทุกข้อในทุกวันอาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องยาก แต่ก็ขอแนะนำให้พยายามนำวิธีเหล่านี้มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
1. การยืดกล้ามเนื้อในตอนเช้า
การยืดกล้ามเนื้อก่อนลุกจากที่นอนในตอนเช้าช่วยกระตุ้นร่างกายให้ตื่นตัว โดยทำให้ระบบหมุนเวียนเลือดดีขึ้น และยังช่วยให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายพร้อมรับวันใหม่ โดยสามารถเริ่มจากการเคลื่อนไหวขาและมือในขณะที่ยังนอนอยู่บนที่นอนได้ ซึ่งควรเริ่มจากการยืดขาโดยการยกขาขึ้นและทำการงอเข่าหรือเคลื่อนไหวมือเพื่อให้เกิดความยืดหยุ่น
เมื่อรู้สึกพร้อมแล้วให้ลุกขึ้นนั่งและเริ่มขยับต้นคอไปทางซ้ายและขวาช้าๆ พร้อมกับยกไหล่ขึ้นลงและทำการหมุนข้อมือและนิ้วมือ
2. ดื่มน้ำให้เพียงพอ
การดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสม เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยในการย่อยอาหาร เสริมสมรรถภาพทางสมอง และเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกาย ดังนั้น ควรเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการดื่มน้ำเย็นหนึ่งแก้วและพยายามดื่มน้ำระหว่างมื้ออาหารทุกครั้ง
3. ใช้ไหมขัดฟัน
การมีสุขภาพช่องปากที่ดีไม่เพียงแต่เป็นการป้องกันฟันผุ แต่ยังช่วยป้องกันการเกิดโรคต่างๆ ด้วย ควรใช้ไหมขัดฟันทุกวัน โดยเริ่มจากการพันไหมที่นิ้วกลางเพื่อให้สามารถเข้าถึงฟันด้านหลังได้ง่าย ก่อนที่จะทำความสะอาดระหว่างฟันในลักษณะ C-shape ให้ระมัดระวังไม่ให้ทำลายเหงือก
4. ทาครีมกันแดด
การใช้ครีมกันแดดเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการปกป้องผิวจากอันตรายจากรังสี UV หลังจากล้างหน้าในตอนเช้า ควรทาครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของ SPF อย่างน้อย 30 เพื่อป้องกันผิวระคายเคืองและความเสื่อมของเซลล์ผิว
5. รับประทานถั่ว
หากเกิดความอยากของขบเคี้ยว ควรเลือกถั่วและเมล็ดพันธุ์ที่ไม่มีเกลือ เช่น อัลมอนด์ วอลนัท และถั่วลิสง เนื่องจากมีสารอาหารที่ดีต่อร่างกาย ซึ่งช่วยลดแรงดึงดูดที่มีต่ออาหารที่มีการแปรรูปสูง อย่างไรก็ตาม ควรควบคุมปริมาณการบริโภคเพื่อไม่ให้ได้รับแคลอรีมากเกินไป
6. พักผ่อนช่วงบ่าย
การนอนหลับช่วงกลางวันสามารถช่วยให้ร่างกายได้พักฟื้นจากความเมื่อยล้าและยังสามารถเสริมประสิทธิภาพในการทำงานได้ งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร "Psychiatry" พบว่าผู้ที่พักผ่อนช่วงกลางวันจะมีคะแนนสูงกว่าผู้ที่ไม่พัก และการนอนในระยะสั้นประมาณไม่เกิน 30 นาทีในช่วงบ่ายสามารถให้ประโยชน์ได้ดีที่สุด
7. ขยับร่างกาย
การเปลี่ยนท่าทางให้เคลื่อนไหวเพื่อหลีกเลี่ยงการนั่งนานๆ เป็นสิ่งสำคัญ ตัวอย่าง เช่น การเต้นแทนการเดิน หรือใช้การเกร็งกล้ามเนื้อขณะแปรงฟัน เพื่อให้ร่างกายมีการเคลื่อนไหวอยู่เสมอ ทั้งนี้ยังสามารถทำการออกกำลังกายแบบง่ายๆ ได้ เช่น การลุกขึ้นยืนแล้วนั่งลงซ้ำๆ
8. หายใจเข้าลึกๆ
การหายใจผ่านจมูกข้างเดียวกันเป็นการช่วยลดความเครียด โดยคุณสามารถใช้การปิดจมูกข้างหนึ่งแล้วหายใจเข้าผ่านอีกข้าง ทำซ้ำประมาณห้าถึงสิบครั้งแล้วเปลี่ยนข้าง ลองทำการฝึกหายใจแบบนี้เพื่อช่วยให้สภาพจิตใจสงบ
9. พบปะเพื่อนฝูง
การมีกิจกรรมสังคมช่วยต้านทานความเหงาและป้องกันการซึมเศร้า ควรพยายามมีการติดต่อกับคนอื่นในชีวิตประจำวัน อาจจะเป็นการโทรศัพท์หากัน ส่งข้อความ หรือพบเพื่อนๆ เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์
10. ทำในสิ่งที่ชอบ
การมีงานอดิเรกช่วยพัฒนาสุขภาพโดยรวมและอารมณ์ได้ การมีงานอดิเรกมักเกี่ยวข้องกับการสร้างสรรค์ การมีส่วนร่วมทางประสาทสัมผัส การแสดงออกทางอารมณ์ และการกระตุ้นความคิด ซึ่งสามารถนำไปสู่ความสุขในชีวิตได้
ในการดำเนินชีวิตประจำวัน นอกจากการรักษาสุขภาพ ยังต้องมีการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลหรือวิธีการที่เราปฏิบัติเพื่อป้องกันการเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง รวมถึงการนำเสนอข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัยใหม่ๆ เพื่อให้ผู้อ่านได้รับประโยชน์สูงสุดจากความรู้ที่มี
ข้อมูลอ้างอิง: health.harvard.edu