01 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 16:30 น. 237
ตามรายงานจากสำนักข่าวไทยหัวข้อข่าว เมื่อเร็วๆ นี้ นายนาริตร์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ของประเทศไทย ได้เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2025 รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจะเป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ซึ่งจะมีการอนุมัติอย่างเป็นทางการสำหรับสามโครงการลงทุนที่สำคัญ โดยมีจำนวนเงินลงทุนรวมมากกว่า 1704 ล้านบาทไทย ซึ่งประกอบด้วยโครงการต่างๆ ดังนี้:
- โครงการจัดเก็บข้อมูลของ TikTok: บริษัทแม่ของแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นระดับโลก TikTok Pte. Ltd. จะลงทุนในการสร้างศูนย์ข้อมูลที่มีประสิทธิภาพสูงและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องในกรุงเทพมหานคร จังหวัดสมุทรปราการ และจังหวัดนครปฐม เพื่อสนับสนุนการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ โดยมีมูลค่าการลงทุนรวม 1267 ล้านบาทไทย
- โครงการบริการคลาวด์ AI: บริษัท Siam AI Corporation จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในประเทศ ที่ได้กลายมาเป็นพันธมิตรกับ NVIDIA ในด้านคลาวด์ ซึ่งเป็นความร่วมมือที่สำคัญ จะลงทุนในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานการประมวลผลคลาวด์ในจังหวัดชลบุรีและจังหวัดปทุมธานี โดยมีมูลค่าการลงทุนรวม 32.5 ล้านบาทไทย
- โครงการผลิตเกลือโปแตช: บริษัท Asia Pacific Potash Corporation จำกัด จะลงทุนสร้างฐานการผลิตที่จังหวัดอุบลราชธานี โดยมุ่งเน้นที่การผลิตเกลือโปแตชสำหรับการทำปุ๋ย ซึ่งมีมูลค่าการลงทุนประมาณ 404 ล้านบาทไทย
นายนาริตร์ยังได้ชี้ให้เห็นว่า ในปี 2024 ประเทศไทยมีสิทธิ์ในการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศในกลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัล โดยเฉพาะในด้านโครงสร้างพื้นฐานหลักอย่างศูนย์ข้อมูลและบริการคลาวด์ จากการลงทุนของบริษัทชั้นนำจากสหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น อินเดีย ออสเตรเลีย และบริษัทท้องถิ่นไทย ซึ่งรวม ๆ กันมีการลงทุนใน 16 โครงการที่เกี่ยวข้อง โดยมีจำนวนเงินลงทุนรวมกว่า 2400 ล้านบาทไทย ทำให้ภาคอุตสาหกรรมนี้กลายเป็นหนึ่งในด้านที่ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศมากที่สุดในประเทศไทยในขณะนี้
นอกจากนี้ เขายังกล่าวต่อไปว่า คาดว่าในปีนี้บริษัทชั้นนำระดับโลกจะยังคงเพิ่มการลงทุนในประเทศไทยเพื่อรองรับความต้องการเทคโนโลยีดิจิทัลที่กำลังเติบโตในประเทศและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ การลงทุนในโครงการขนาดใหญ่เหล่านี้จะช่วยผลักดันประเทศไทยไปสู่เป้าหมายการเป็นศูนย์กลางดิจิทัลในภูมิภาค และเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันในเศรษฐกิจดิจิทัลระดับโลกให้มากขึ้น
ข้อมูลโดย: (แปลโดย: wan; แหล่งที่มา: infoquest)