29 มกราคม 2568 เวลา 18:34 น. 417
เมื่อวันที่ 28 มกราคม เวลา 13:30 น. สำนักงานตำรวจแห่งชาติไทยรายงานว่า พล.ต.อ. กฤษฎา จีบดีรัตน์ ปลัดตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท. ทศชัย สวัสดิ์อัครการ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรฝั่งนครหลวง เป็นผู้นำทีมผู้แทนไทยประชุมร่วมกับ รองรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศจีน หยู จงอี้ ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนจีน เพื่อหารือเกี่ยวกับการเสริมสร้างความร่วมมือในการต่อสู้กับกลุ่มอาชญากรรมทางโทรศัพท์ในพื้นที่เมียววี จังหวัดทางตอนเหนือของเมียนมา
พล.ต.ท. ทศชัย กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างไทยและจีน โดยเฉพาะในการป้องกันการฉ้อโกง, การจับกุมผู้กระทำผิด, การส่งตัวผู้ต้องหากลับประเทศ, การติดตามจับกุมผู้ต้องสงสัยในคดีเรียกว่า "คดีดาว" ซึ่งมีกลุ่มผู้ต้องสงสัย 30 คน (ขณะนี้มีการจับกุมไปแล้ว 20 คน), การช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกกลุ่มอาชญากรข่มขืนทางกฎหมาย, และการตัดขาดสัญญาณการสื่อสารรวมถึงไฟฟ้าและน้ำจากไทยไปยังเมียววี เพื่อสร้างกลไกในการประสานงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการทำงานของตำรวจ
ในระหว่างการประชุม ฝ่ายจีนได้เสนอให้ตั้งศูนย์ประสานงานร่วมระหว่างไทยและจีน เพื่อร่วมมือกันในการต่อสู้กับอาชญากรรมทางโทรศัพท์ ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติไทยได้เสนอให้ทางจีนเข้าร่วมศูนย์ประสานงานการทำงานร่วมกันระหว่างประเทศที่กำลังอยู่ในขั้นเตรียมการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมมือในการต่อสู้กับอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ตและการค้ามนุษย์ทั่วโลก ในวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา องค์การสหประชาชาติด้านยาเสพติดและอาชญากรรม (UNODC) ได้เชิญพล.ต.ท. ทศชัยให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าการปฏิบัติการพิเศษในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เรื่องการต่อสู้กับอาชญากรรมทางไซเบอร์และการค้ามนุษย์ โดยในอนาคตจะมีการประสานงานระหว่างประเทศ
พล.ต.ท. ทศชัยรายงานถึงความก้าวหน้าล่าสุดในการดำเนินงาน "ทำลายสะพานโจร" ซึ่งประกอบไปด้วยการต่อสู้กับกลุ่มฉ้อโกงทางโทรศัพท์อย่างต่อเนื่อง และการตัดการสนับสนุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การให้บริการซิมการ์ด, สายสื่อสาร, เสาสัญญาณ, ไฟฟ้า, และน้ำประปา นอกจากนั้น หน่วยงานไทยยังได้ร่วมมือกับกองทัพไทยและหน่วยงานควบคุมชายแดนเพื่อเสริมความเข้มแข็งในการลาดตระเวนชายแดน โดยป้องกันการสนับสนุนจากไทยไปยังกลุ่มอาชญากร
สำหรับเหตุการณ์ที่มีการร้องขอให้องค์การตำรวจสากล (Interpol) ช่วยเหลือเมื่อผู้ต้องหาชาวจีน เซ่อ จื้อเจียง ซึ่งถูกคุมขังในกรุงเทพฯ พล.ต.ท. ทศชัยได้ตอบว่า ฝ่ายจีนในที่ประชุมได้ย้ำว่า เซ่อ จื้อเจียง เป็นผู้ต้องหาที่มีการแจ้งหยุดจับกุมจากรัฐบาลจีน และต้องการส่งตัวเขากลับเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม เนื่องจากคดีนี้อยู่ในขั้นตอนการอุทธรณ์ เซ่อ จื้อเจียง ยังต้องถูกคุมขังในไทยจนกว่าจะครบกำหนดโทษหรือมีกำหนดการออกคำพิพากษาจากศาล
นอกจากนี้ การที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติไทยได้ทำการย้ายตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจภูธรชายแดนสามคน พล.ต.ท. ทศชัยอธิบายว่าเป็นการแน่ใจในความโปร่งใสและความเป็นธรรมในการดำเนินการสอบสวน อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานพบว่าทั้งสามนายตำรวจหรือเจ้าหน้าที่อื่น ๆ มีส่วนเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมด้านการค้ามนุษย์ ทั้งนี้ ฝ่ายจีนเลือกที่จะร่วมมือกับไทย เนื่องจากความสัมพันธ์ที่ดีระยะยาวระหว่างสองประเทศและประเทศไทยมีความสะดวกในเชิงภูมิศาสตร์ แต่ยังไม่มีการสื่อสารอย่างเป็นทางการกับรัฐบาลเมียนมาในเรื่องนี้
ในวันนี้ (29 มกราคม) เมียววีประเทศเมียนมาจะส่งมอบเหยื่อชาวจีนจากกลุ่มอาชญากรรมทางโทรศัพท์จำนวน 61 ราย ให้กับฝ่ายไทย เหยื่อเหล่านี้มาจากหลายประเทศ แต่ว่าไม่มีประชาชนไทยในจำนวนนี้ โดยจะถูกนำไปยังจังหวัดท่าขี้เหล็ก เพื่อให้ตำรวจไทยได้ดำเนินการคัดกรองตามกลไกการส่งต่อในระดับชาติ (NRM) เพื่อประเมินว่าเขาตรงตามเกณฑ์การถูกระบุว่าเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์หรือไม่
(ข้อมูลจาก: mgronline)