ข่าวจากสำนักข่าวไทยรายงานว่า เมื่อวันที่ 29 มกราคม ธนาคารกลางของประเทศไทยได้ประกาศสนับสนุนกระทรวงเศรษฐกิจดิจิทัลและสังคมในการนำเสนอร่างพระราชบัญญัติเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีต่อคณะรัฐมนตรี ซึ่งรวมถึงการกำหนดความรับผิดชอบของธนาคารและสถาบันการเงินในกรณีที่เกี่ยวข้องด้วย

ในปัจจุบัน ประชาชนชาวไทยต้องเผชิญกับความสูญเสียจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เช่น การฉ้อโกงทางโทรศัพท์ โดยค่าเสียหายอยู่ที่ประมาณ 60-70 ล้านบาทต่อวัน ซึ่งตัวเลขนี้สูงถึง 100-120 ล้านบาทต่อวันก่อนที่จะมีการดำเนินมาตรการป้องกัน อย่างไรก็ตาม ร่างพระราชบัญญัติฉบับปี 2023 ยังมีช่องว่างในเรื่องความรับผิดชอบและกลไกการลงโทษ เช่น การจัดการกับ “บัญชีม้า” บนแพลตฟอร์ม P2P กลไกการคืนเงินให้กับผู้เสียหาย และความรับผิดชอบร่วมของบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น การแก้ไขกฎหมายเพื่อจัดการกับปัญหานี้จึงเป็นเรื่องเร่งด่วน

สำหรับปัญหาที่กล่าวถึง ร่างกฎหมายที่แก้ไขมีเนื้อหาที่สำคัญดังนี้:

1. เพิ่มเสริมอำนาจของรัฐบาลในการตรวจสอบแพลตฟอร์ม P2P เพื่อปราบปรามบัญชีที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมอาชญากรรม;

2. กำหนดให้ผู้ให้บริการโทรคมนาคมหยุดใช้งานซิมการ์ดที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย;

3. บังคับให้ธนาคารส่งข้อมูลเกี่ยวกับ “บัญชีม้า” ไปยังสำนักงานป้องกันการฟอกเงินเพื่อเร่งคืนเงินให้กับผู้เสียหาย;

4. จัดตั้งกลไกการลงโทษสำหรับแพลตฟอร์ม P2P และธนาคารที่ไม่ตรวจสอบบัญชีอย่างเข้มงวด;

5. เพิ่มโทษสำหรับการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล;

6. กำหนดให้สถาบันการเงินเครือข่ายโทรศัพท์ และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ต้องร่วมกันรับผิดชอบต่อความเสียหายจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

รองผู้ว่าการธนาคารกลางและหัวหน้าฝ่ายกำกับดูแลสถาบันการเงินกล่าวว่า ธนาคารกลางสนับสนุนการแก้ไขร่างกฎหมายจากกระทรวงเศรษฐกิจดิจิทัลและสังคม และกำลังทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงรายละเอียดให้มีประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอย่างมากขึ้น นอกจากนี้ ยังได้มีการกำหนดให้ผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบในบางประการ โดยหากสถาบันการเงินไม่ดำเนินการตามข้อกำหนดในการกำกับดูแลจะต้องรับผิดชอบต่อความสูญเสียที่เกิดจากความประมาท นี่ถือเป็นนโยบายหลักของธนาคารกลางที่กำลังเจรจากับรัฐบาลและองค์กรเอกชนเพื่อดำเนินการให้เป็นรูปธรรม ในเร็วๆ นี้ธนาคารกลางจะเปิดเผยกลไกการประเมินความรับผิดชอบเพื่อกำหนดให้ผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

ข้อมูลอ้างอิง: ktnewsonline