ตามรายงานข่าวจากสำนักงานข่าวท้องถิ่นในวันที่ 27 มกราคม 2567 ระบุว่า ททท. (การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย) ได้เผยเป้าหมายการพัฒนาการท่องเที่ยวไทยในปี 2568 อย่างชัดเจน โดยผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย คุณแทบพนี ได้ประกาศว่าความคาดหวังสูงสุดในการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติคือจำนวนผู้เข้าชมที่ 38 ล้านคน ซึ่งจะต้องเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ในขณะที่เป้าหมายเชิงนโยบายตั้งไว้ที่ 40 ล้านคน ซึ่งคาดว่าจะสร้างรายได้ประมาณ 2 ล้านล้านบาท จากนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะในตลาดใกล้เคียงอย่างกลุ่มประเทศในเอเชียซึ่งคาดว่าจะมีประมาณ 29 ล้านคน หรือคิดเป็น 77.5% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด

สำหรับการท่องเที่ยวภายในประเทศ ททท. ตั้งเป้าที่จะมีนักท่องเที่ยวระหว่าง 200-220 ล้านคน โดยคาดว่าจะสร้างรายได้ราว 1 ล้านล้านบาท ส่งผลให้การตั้งเป้าการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวทั่วประเทศในปี 2568 สู่ระดับประมาณ 3 ล้านล้านบาทได้ในปีนี้ จำนวนผู้คาดหวังนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้คือ 40 ล้านคน ซึ่งสูงกว่าที่คาดเอาไว้ในปี 2567 ที่มีจำนวนถึง 35.54 ล้านคน ทำให้เกิดรายได้ราว 2 ล้านล้านบาท

• การสร้างจุดเน้นใน 5 ตลาดใหม่ที่เติบโตอย่างรวดเร็วในปี 2568

ปี 2568 จะเป็นปีที่สำคัญสำหรับการท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะการขยายตลาดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว เช่น ตลาดนักท่องเที่ยวจากอินเดียมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นถึง 230-250 ล้านคน ขณะที่นักท่องเที่ยวจากเกาหลีใต้คาดว่าจะอยู่ที่ 200-250 ล้านคน

ในขณะนี้ นักท่องเที่ยวจากอาเซียนมีสัดส่วนคิดเป็น 30% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมดในประเทศไทย โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากมาเลเซียคาดว่าจะเติบโตถึง 5.5 ล้านคน ส่วนจากรัสเซียคาดการณ์ว่าจะมีประมาณ 1.92 ล้านคน ขณะที่การตั้งเป้าจากตลาดจีนจะมีการเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% โดยคาดว่าจะอยู่ที่ระหว่าง 7.3-8 ล้านคน

ตลาดที่ยังมีศักยภาพมากยังคงอยู่ที่อินเดีย รัสเซีย เกาหลีใต้ และมาเลเซีย ขณะที่ตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างรวดเร็ว เช่น ซาอุดิอาระเบียและคาซัคสถาน คาดว่าจะมีการเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% ในปีนี้

เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในปีนี้ ททท. จะมุ่งเน้นการประชาสัมพันธ์ตลาดเมืองรองให้มากขึ้น เช่น ตลาดในประเทศจีนเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว

• การสร้าง “จุดหมายปลายทางที่เชื่อมโยงกันในอาเซียน”

ประเทศไทยจะร่วมมือกับประเทศอื่น ๆ ในอาเซียน เพื่อเสริมสร้างการเชื่อมต่อภายในภูมิภาคและพัฒนาความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว เพื่อสร้าง “จุดหมายปลายทางที่เชื่อมโยงกัน” เช่น การฟื้นฟูเส้นทางการท่องเที่ยวจากเมดาน ประเทศอินโดนีเซียดังกล่าวไปถึงหาดใหญ่ และการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางเรือที่เชื่อมโยงกับสิงคโปร์ รวมถึงการเชื่อมเส้นทางรถไฟระหว่างไทยและมาเลเซียผ่านทางปฏิบัติการในบัตงมัสซาและเกาะลิเบอร์

• โอกาสทางการตลาดเมืองท่องเที่ยวและการส่งเสริมการจัดงานการค้าเที่ยวบินนานาชาติ

นอกจากนี้ ททท. จะส่งเสริมพัฒนาเมืองท่องเที่ยว ซึ่งเป็นการยกระดับเมืองที่มีศักยภาพเพื่อประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ด้านการท่องเที่ยวในตลาดโลก โดยเฉพาะการเข้าร่วมงาน ITB ที่จัดขึ้นในกรุงเบอร์ลิน ซึ่งจะสนับสนุนให้บริษัทจากเมืองท่องเที่ยว 12-20 แห่งมีโอกาสในการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ของตนเอง

ด้วยศักยภาพที่หลากหลาย นอกจากนี้ ททท. ยังเน้นย้ำการสร้างหมวดห้าสิ่งที่ควรทำในประเทศไทย ซึ่งประกอบไปด้วยอาหารอร่อย การทดลองประสบการณ์ใหม่ของนักท่องเที่ยว การเลือกซื้อของดีที่ประเทศไทยมีให้ การท่องเที่ยวในจุดที่สำคัญ และการชมสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง โดยมีเป้าหมายเพื่อร่วมส่งเสริมการท่องเที่ยวและที่จะสามารถดึงดูดทั้งผู้มาเยือนเก่าและใหม่ และกระตุ้นการเพิ่มจำนวนเที่ยวบินเข้าประเทศเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มเติมในประเทศไทย

• การฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวชาวจีนในการเดินทางสูประเทศไทย

อย่างไรก็ตาม ปีนี้ธนาคารกลางในการท่องเที่ยวยังคงพบกับอุปสรรคมากมายรวมถึงสภาวะเศรษฐกิจโลกและความขัดแย้งทางการเมืองที่ควบคุมไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลที่ไม่ปลอดภัยที่เกิดขึ้นในโซเชียลมีเดีย ส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวชาวจีนประมาณ 10,000 คนต้องยกเลิกการเดินทางมาประเทศไทย

เพื่อสร้างความเชื่อมั่นใหม่ ททท. จะเร่งดำเนินการในแสดงภาพและสถานการณ์จริงของประเทศไทย พร้อมทั้งเปิดเผยข้อมูลที่เป็นเท็จ ส่วนในกรณีที่หลายฝ่ายเรียกร้องให้ยกเลิกนโยบายการให้วีซ่าฟรีสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีน ททท. เชื่อว่าการยกเลิกวีซ่าไม่ใช่ทางออกที่ถูกต้อง แต่จะพิจารณาลดระยะเวลาในการให้วีซ่าแบบไม่ต้องขอเข้าระหว่างที่นักท่องเที่ยวจีนมาต่างประเทศ ซึ่งพบว่าด้วยระยะเวลาการเข้ามาในประเทศไทยของผู้ที่มาจากจีนเฉลี่ยอยู่ที่ 7 วันเท่านั้น

ในปี 2568 ททท. จะจัดกิจกรรม “ปีมหัศจรรย์ไทย – ท่องเที่ยวและกีฬา” ที่มุ่งกระตุ้นให้คนไทยออกเดินทางบ่อยขึ้นและใช้จ่ายมากขึ้น

นอกจากนี้ ประเทศไทยยังเตรียมเปิดตลาดใหม่ ๆ เพื่อกระตุ้นการบริโภคในตลาดหลัก รวมถึงขยายการบริการนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพสูงยิ่งขึ้นและยืนยันว่ามีการดำเนินนโยบาย “เดินทางง่าย” อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการสานต่อเป้าหมายการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน โดยจะขยายโครงการ STAR (Sustainable Tourism Assessment for Resorts) เพื่อให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

• ปีมหัศจรรย์ไทย – ท่องเที่ยวและกีฬา 2568

คุณแทบพนี ยังได้กล่าวถึงการเตรียมการในปี 2568 ว่าจะมีการจัดงาน “ปีมหัศจรรย์ไทย – ท่องเที่ยวและกีฬา” พร้อมกับการสนับสนุนจากหน่วยงานรัฐบาลต่าง ๆ เช่น กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงคมนาคม รวมถึงสำนักงานการส่งเสริมการลงทุน โดยการจัดงานตลอดทั้งปีมี 5 โครงการเพื่อรองรับการส่งเสริมการท่องเที่ยว

1. งานเทศกาลยิ่งใหญ่: มีการจัดกิจกรรมใหญ่ตลอดทั้งปีในการดึงดูดนักท่องเที่ยว และมั่นใจว่าจะมีความสะดวกสบายในการเดินทาง

2. ช่วงเวลาสำคัญ: เปิดตัวเส้นทางการท่องเที่ยวใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน พร้อมให้บริการประสบการณ์แบบ VIP

3. ข้อเสนอสุดพิเศษ: รวมโปรโมชั่นจากการช้อปปิ้ง ราคาแพคเกจท่องเที่ยว บัตรโดยสาร รวมถึงช่องทางการชำระเงินที่สะดวก

4. การเชิญผู้มีชื่อเสียง: จะมีการเชิญบุคคลมีชื่อเสียงจากทั่วโลก ทั้งนักร้องดีๆ นักกีฬา ผู้ซึ่งได้รับรางวัลโนเบล มานำนักเที่ยวมาสัมผัสประสบการณ์ในประเทศไทย

5. การเฉลิมฉลอง: จัดงานฉลองในเทศกาลต่าง ๆ และร่วมฉลองวันสำคัญทั้งในระดับประเทศและกับเพื่อนร่วมงาน

การจัดงานเหล่านี้จะช่วยเสริมสร้างการเติบโตในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เพิ่มจำนวนผู้ที่มาเที่ยวประเทศไทย และมอบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นทิศทางการโปรโมทการท่องเที่ยวในปีนี้ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

(แปล: หยางซูเหยียน แปลโดยสำนักงานแปลภาษาสี่จุดศูนย์；ตรวจสอบ: wan；แหล่งที่มา: thansettakij)