ตามข่าวจากสำนักข่าวไทยรายงานว่า เมื่อวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติในประเทศไทยได้จัดทีมปฏิบัติการเพื่อตรวจค้น 5 จุดเป้าหมายในจังหวัดชลบุรี ซึ่งนำไปสู่การทำลายเครือข่ายของกลุ่มธุรกิจสีเทาจากจีนที่ใช้ "นอมินี" สัญชาติไทยในการจัดตั้งบริษัทท่องเที่ยว แต่กลับทำกิจกรรมเกี่ยวกับการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลแทน

ตามรายงานข่าวกล่าวถึงกลุ่มนี้ว่า ประกอบด้วยบุคคลที่เป็นชาวจีนจำนวนมาก ซึ่งถูกกล่าวหาว่าใช้กลุ่มหลอกลวงผ่านการโทรศัพท์เข้าไปขอโทรหาเหยื่อและได้รับเงินคริปโตเคอร์เรนซี โดยเงินที่ได้จากการหลอกลวงนั้นถูกนำไปใช้ในการซื้ออสังหาริมทรัพย์แล้วนำออกมาให้เช่าสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางเข้ามาในไทย บริษัทที่จดทะเบียนนี้มีลักษณะเป็นนิติบุคคล โดยมีโลโก้และเว็บไซต์ที่ดูน่าเชื่อถือในสายตาของผู้ใช้งาน

ในการดำเนินงานดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบกับนักท่องเที่ยวชาวจีนหลายคนอาศัยอยู่ในอสังหาริมทรัพย์ที่ถูกตรวจสอบ และยังได้ยึดสวนสระว่ายน้ำที่ถูกดัดแปลงเป็นที่พักให้เช่าที่ซื้อโดยชาวจีนในเขตนั้น โดยมูลค่าทรัพย์สินรวมเกินกว่า 20 ล้านบาทไทย จากการสืบสวนเบื้องต้นมีการตั้งทะเบียนบริษัทในลักษณะนี้ในจังหวัดชลบุรีถึง 40 กว่าแห่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการยึดหลักฐานที่เกี่ยวข้องและมีแผนที่จะขยายการสอบสวนเพื่อตรวจสอบกิจกรรมที่ผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มนี้ต่อไป

ทางสำนักงานตำรวจยังขอเตือนประชาชนว่าอย่าหลงไปเป็น "นอมินี" ให้กับชาวต่างชาติในประเทศไทย เนื่องจากการกระทำเช่นนี้ถือว่าผิดกฎหมายไทย ผู้กระทำผิดอาจต้องเผชิญกับโทษจำคุกและปรับเงิน นอกจากนี้บุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลต้องขออนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) หากไม่ได้รับอนุญาตในการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้อง จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดรวมถึงโทษจำคุกและการปรับเงินด้วย
 
(แปล: เสี่ยวเจีย จากแหล่งข่าว ch7hd_news, khaosod)