ตามรายงานข่าวของสถานีโทรทัศน์ไทยเมื่อวันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา กรมสอบสวนกลาง (CIB) ของประเทศไทยได้ดำเนินการบุกตรวจค้นโรงงานของบริษัทจีนที่ตั้งอยู่ในอำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี ซึ่งถูกต้องสงสัยว่าทำการขนส่งขยะอิเล็กทรอนิกส์ โดยทางเจ้าหน้าที่สามารถยึดของเสียอันตรายได้จำนวนมาก และจับกุมผู้ต้องสงสัยสองรายซึ่งเป็นชาวจีน ได้แก่ นายกัว วัย 55 ปี และนายหลี วัย 42 ปี โดยพวกเขาจะถูกตั้งข้อหา "ถือครองวัตถุอันตรายประเภทที่ 3 โดยไม่มีใบอนุญาต" ตามประกาศของกระทรวงอุตสาหกรรมไทยในปี 2013

ตามความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนี้ พบการยึดของเสียอันตรายที่รวมถึง:

1. ขยะที่มีการปนเปื้อนด้วยโลหะหนัก ประมาณ 1.5 ตัน;

2. ขยะที่มีการปนเปื้อนด้วยโลหะหนักที่แยกออกหรือวัสดุที่ไม่ได้ใช้ ประมาณ 10 ตัน.

จากประกาศของกระทรวงอุตสาหกรรมในปี 2013 มีรายการขยะเคมีที่ถูกจำกัดรวมถึง:

– หมายเลข 2.2 ประเภทที่ 3:

สารการปนเปื้อนได้แก่ ซิลิเนียม และสารประกอบซิลิเนียม เบริลเลียม และสารประกอบเบริลเลียม แคดเมียม และสารประกอบแคดเมียม ตะกั่วและสารประกอบตะกั่ว ซีเลเนียมและสารประกอบซิลิเนียม โทรเรียม และสารประกอบโทรเรียม;

– หมายเลข 2.3:

อาร์เซนิกและสารประกอบอาร์เซนิก ปรอทและสารประกอบปรอท ธัลเลียมและสารประกอบธัลเลียม รวมถึงชิ้นส่วนของอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ หรือขยะ (ไม่นับรวมขยะของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า) เช่น คาปาซิเตอร์ แบตเตอรี่ที่มีปรอท สวิตช์ที่มีปรอท แก้วจากปืนลำกล้องภาพ และหัวเอียงของแก้วที่มี PCB หรือวัสดุที่ถูกปนเปื้อนด้วยแคดเมียม ปรอท ตะกั่ว และ PCB.

ก่อนหน้านี้ สำนักงานศุลกากรได้ทำการยึดตู้คอนเทนเนอร์ขนของผิดกฎหมายจำนวน 10 ตู้ รวมทั้งสิ้น 256 ตันของขยะอิเล็กทรอนิกส์ โดยตามการตรวจสอบพบว่ามีการนำเข้าขยะเหล่านี้จากบริษัทที่ตั้งอยู่ในอำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี เจ้าหน้าที่ได้ทำการติดตามค้นหาและพบว่าบริษัทดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกับโรงงานในจังหวัดระยอง ซึ่งโรงงานดังกล่าวเคยถูกปิดตัวไปเนื่องจากการกระทำความผิดในลักษณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา โรงงานในระยองได้มีการส่งต่อขยะอิเล็กทรอนิกส์มายังโรงงานในอำเภอพนัสนิคม ซึ่งเป็นที่มาของการตามล่าและมีการสั่งปิดโรงงานชั่วคราว.

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรมเพื่อตรวจสอบโรงงานที่เกี่ยวข้อง พบว่ามีการเก็บสะสมขยะอันตรายอยู่เป็นจำนวนมาก นายหลีได้แสดงตัวว่าเป็นผู้ดูแลการจัดเก็บวัตถุอันตราย ส่วน นายกัวได้อ้างว่าเป็นผู้จัดการของโรงงาน ทั้งคู่ยืนยันว่าโรงงานนี้ไม่ได้ยื่นขออนุญาตผลิตสินค้าใด ๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจสอบและพบว่า การกระทำของทั้งสองได้เข้าข่ายความผิดทางกฎหมายแล้ว ทั้งคู่ถูกส่งต่อให้กับสถานีตำรวจท้องถิ่นเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

แหล่งข่าว: pptvhd36