ตามข่าวจากสำนักข่าวไทยเฮดไลน์ วันที่ 26 มกราคม เวลา 10:00 น. นายซาซีกัน รองโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย เปิดเผยรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2567 มูลค่าการส่งออกของประเทศไทยรวมอยู่ที่ประมาณ 24,765.9 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือตีเป็นเงินไทยราว 853,305 ล้านบาท โดยเเจ้งให้ทราบว่า การเติบโตนี้เพิ่มขึ้น 8.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นระยะเวลาติดต่อกันเป็นเดือนที่หกที่การส่งออกมีการเติบโตที่เป็นบวก หากย้อนกลับไปในปี 2567 พบว่าประเทศไทยมีผลการส่งออกโดดเด่น โดยรวมในปีนี้มูลค่าการส่งออกรวมสูงถึง 300,529.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือตีเป็นเงินไทยประมาณ 10.5 ล้านล้านบาท เติบโตขึ้น 5.4% เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 1%-2% ซึ่งเป็นการทำลายสถิติสูงสุดในประวัติศาสตร์การส่งออกของประเทศ

ตลาดการส่งออกหลักของประเทศไทยโดยทั่วไปมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยเฉพาะตลาดหลักที่มีอัตราการเติบโตสูงถึง 12% อาทิเช่น สหรัฐอเมริกามีการเติบโตถึง 17.5% ขณะที่ประเทศจีนเติบโต 15% ญี่ปุ่นเติบโต 0.6% และสหภาพยุโรปเติบโต 19.1% สำหรับตลาด CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) มีการเติบโตสูงถึง 20.7% ตลาดรองก็มีการเติบโตโดยรวมที่สูงถึง 6.2% ซึ่งในเขตเอเชียใต้เติบโตถึง 44.5% ตะวันออกกลางเติบโตอยู่ที่ 11.3% แอฟริกาเติบโต 8.7% ละตินอเมริกาเติบโต 12.3% และรัสเซียกับประเทศในกลุ่ม CIS มีการเติบโตสูงถึง 37% ขณะที่สหราชอาณาจักรเติบโต 37.4%

นางซาซีกันยังได้แสดงความเห็นว่า การส่งออกของประเทศไทยในเดือนมกราคมที่กำลังจะมาถึงยังมีแนวโน้มว่าจะรักษากำลังการเติบโตที่แข็งแกร่ง และคาดว่าจะมีการเติบโตต่อเนื่องในปี 2568 โดยเป้าหมายการส่งออกในปีดังกล่าวยังคงอยู่ที่ 2% ถึง 3% ซึ่งปัจจัยสนับสนุนให้มีการเติบโตนี้ ได้แก่ ความคาดหวังว่าเศรษฐกิจทั่วโลกจะมีเสถียรภาพ ความกดดันของเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ รวมถึงการย้ายฐานการผลิตไปยังภูมิภาคอาเซียนที่รวมถึงประเทศไทย และการสร้างแบรนด์ที่เป็นเอกลักษณ์เพื่อเสริมสร้างอิทธิพลในตลาดโลก โดยเฉพาะการใช้พลังแบบ Soft Power ของไทยร่วมกับผลิตภัณฑ์ที่ส่งออกเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่โดดเด่น

（แปล: ลี่หยวน สำนักแปลสี่จุดศูนย์; ตรวจสอบ: KA; แหล่งที่มาข่าว: tnnthailand）