ข่าวจากสำนักข่าวไทยเฮดไลน์ รายงานว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้ สถานการณ์คุณภาพอากาศในกรุงเทพฯ และเขตปริมณฑลกำลังเผชิญกับวิกฤติครั้งใหญ่ โดยเฉพาะค่าฝุ่น PM2.5 ที่เกินมาตรฐานอย่างรุนแรง ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนเป็นวงกว้าง ซึ่งฝุ่น PM2.5 เป็นฝุ่นละเอียดที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน ที่สามารถเข้าสู่อวัยวะภายใน และก่อให้เกิดปัญหาทางการหายใจและโรคเรื้อรังต่าง ๆ

ในช่วงวิกฤตดังกล่าว นายกรัฐมนตรีประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ออกมาแถลงผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย โดยมีการประกาศมาตรการเร่งด่วนจำนวนหกข้อ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเป็นระบบและรวดเร็ว โดยนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำถึงความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน

1. ขอให้หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนร่วมมือกัน อนุญาตให้เจ้าหน้าที่รัฐและพนักงานของบริษัททำงานที่บ้านเพื่อลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว และให้กระทรวงคมนาคมยกเว้นค่าบริการรถไฟฟ้าและรถโดยสารสาธารณะตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม เป็นต้นไป เพื่อสนับสนุนการใช้ขนส่งสาธารณะ
2. สั่งการให้หน่วยงานราชการที่ดูแลด้านฝนหลวงตรวจสอบสภาพความชื้นอย่างใกล้ชิด หากมีความชื้นเพียงพอ จะดำเนินการสร้างฝนเทียมในพื้นที่กรุงเทพฯ ทันที
3. เรียกร้องให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบและควบคุมพื้นที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะการเผาไหม้แบบเปิด โดยผู้กระทำผิดจะได้รับโทษอย่างเคร่งครัด
4. ชี้แนะให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมพัฒนาแอปพลิเคชัน เพื่อให้ประชาชนรายงานจุดที่เกิดการเผาได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถเข้าไปตรวจสอบได้ทันที
5. สั่งการให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดการกับพื้นที่ก่อสร้างที่ไม่มีการปกปิดฝุ่นตามกฎหมาย และพักงานก่อสร้างที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพอากาศในช่วงที่ยังไม่สามารถฟื้นฟูคุณภาพอากาศได้
6. เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งประเทศจะทำการตรวจสอบยานพาหนะที่มีควันดำอย่างเข้มงวด เพื่อลดมลพิษจากการขนส่ง

รัฐบาลไทยยืนยันว่าจะทำทุกวิถีทางเพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 โดยจัดทำมาตรการระยะสั้นและระยะยาวเพื่อบรรเทาผลกระทบจากปัญหาหมอกควันอย่างมีประสิทธิภาพ

(ที่มา: thaipost)