23 มกราคม 2568 เวลา 09:25 น. 1130
สำนักข่าวไทยเฮดไลน์รายงานว่า เมื่อวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา นายพลพัฒน์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของประเทศไทย ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเกี่ยวกับความก้าวหน้าในโครงการสถานบันเทิงแบบครบวงจร ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยเขาเรียกร้องให้ทุกฝ่ายไม่คัดค้านโครงการนี้เพื่อหลีกเลี่ยงความล่าช้าในกระบวนการพิจารณา และยังได้เน้นว่ารัฐบาลได้แจ้งเรื่องนี้ให้รัฐสภาทราบแล้วในขณะที่ส่งคำชี้แจงทางนโยบาย จึงไม่จำเป็นต้องมีการลงประชามติอีกครั้ง
เมื่อถูกถามเกี่ยวกับโครงการเงินดิจิทัลจำนวน 10,000 บาท พลพัฒน์กล่าวว่า การเบิกจ่ายในระยะที่สอง จะเสร็จสิ้นภายในวันที่ 27 มกราคม โดยมีประชาชนประมาณ 3 ล้านคนที่จะได้รับเงินสนับสนุน ซึ่งรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 30,000 ล้านบาท สำหรับคำแถลงของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณที่กล่าวว่า การเบิกจ่ายในระยะที่สามจะเกิดขึ้นระหว่างเดือนมีนาคมถึงเมษายน พลพัฒน์กล่าวว่าเขายังไม่ทราบรายละเอียดโดยเฉพาะ แต่รัฐบาลจะเดินหน้าตามแผนการสนับสนุนเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้เขายังได้รายงานว่า กระทรวงการคลังได้ประชุมและเตรียมประกาศว่าจะมีการจ่ายเงินในช่วงไตรมาสที่สองถึงสามในอนาคต โดยจะดำเนินการตามรายชื่อที่ลงทะเบียนไว้เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา
เมื่อได้รับการสอบถามเกี่ยวกับกำหนดเวลาในการพิจารณากฎหมายเกี่ยวกับสถานบันเทิงแบบครบวงจร พลพัฒน์กล่าวว่าเขายังไม่ทราบช่วงเวลาที่ชัดเจน เนื่องจากขึ้นอยู่กับความก้าวหน้าของกระบวนการขออนุมัติ ขณะนี้ร่างกฎหมายดังกล่าวได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว และทุกอย่างกำลังดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายอย่างถูกต้อง เขายังย้ำด้วยว่า จะไม่มีปัญหาใด ๆ โดยจุดประสงค์หลักของการพัฒนาสถานบันเทิงเหล่านี้คือเพื่อสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่เน้นการบริการแบบครบวงจร และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งแน่นอนว่าแนวทางนี้จะมีผลดีกว่าการปล่อยให้กิจกรรมผิดกฎหมายแพร่หลายไปทั่วเมือง
เมื่อถามถึงเหตุผลที่ประชาธิปัตย์เรียกร้องให้มีการลงประชามติ พลพัฒน์ตอบว่าการมีความคิดเห็นที่แตกต่างเป็นเรื่องปกติเมื่อมีการใช้มาตรการใหม่ ๆ อย่างไรก็ตาม เขาหวังว่าจะไม่ใช้เวลานานเกินไปเหมือนกับมาตรการเงินดิจิทัลที่ผ่านมา โดยยืนยันว่ารัฐบาลได้แจ้งเรื่องนี้เป็นที่รู้จักแล้วในที่สาธารณะ และการมีการลงคะแนนเสียงในรัฐสภาแสดงถึงกระบวนการประชาธิปไตยที่ทุกคนมีส่วนร่วม ซึ่งการที่ประชาชนบางส่วนไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นนี้ขึ้นอยู่กับมุมมองส่วนบุคคล หากยังคงมีคำเรียกร้องที่ไม่สิ้นสุด ประเทศจะไม่สามารถก้าวหน้าได้
(แหล่งที่มาจาก: khaosod)