นายกรัฐมนตรีไทยเจรจากับผู้บริหารระดับสูงจากห้าบริษัทชั้นนำระดับโลก

23 มกราคม 2568 เวลา 09:25 น.    771

ข้อมูลจากสำนักข่าวไทยเฮดไลน์ รายงานว่า ขณะนี้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย กำลังเข้าร่วมการประชุมประจำปีของ World Economic Forum ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นเวลา 5 วัน ซึ่งงานประชุมนี้เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติว่าเป็นเวทีสำคัญสำหรับการหารือเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก ในวันก่อนการเปิดการประชุมอย่างเป็นทางการ พลเอกประยุทธ์ ได้มีการพบปะกับผู้บริหารจาก 5 บริษัทระดับโลก เพื่อหารือถึงแนวทางการลงทุนที่เป็นรูปธรรม ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาทางเศรษฐกิจและการสนับสนุนภาคการเกษตรของไทย

1. บริษัทเนสท์เล่: ขยายการผลิตกาแฟ สนับสนุนเกษตรกรไทย

ในเบื้องต้น พลเอกประยุทธ์ ได้พบกับประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเนสท์เล่ในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก และแอฟริกา คุณเรมี เอเจอเรล ซึ่งได้ยืนยันถึงแผนการลงทุนเพิ่มเติมของเนสท์เล่ในปี 2025 โดยมุ่งเน้นการขยายสายการผลิตกาแฟ รวมถึงการสนับสนุนเกษตรกรไทยให้มีการขยายพื้นที่ปลูกกาแฟเพิ่มขึ้น ในขณะนี้ เนสท์เล่ถือเป็นหนึ่งในผู้ผลิตกาแฟรายใหญ่ที่สุดในโลก และการลงทุนครั้งนี้มีแนวโน้มที่จะสร้างผลประโยชน์อย่างมากต่อเศรษฐกิจของไทย

2. กลุ่มธุรกิจ DP World: ศึกษาโครงการ “Land Bridge” สร้างศูนย์กลางการขนส่งในภูมิภาค

นอกจากนี้ พลเอกประยุทธ์ ยังได้มีการหารือกับคุณซุลต่าน อัล-เอฮ์มัด เบน สุเลย์มาน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ DP World ทั้งสองฝ่ายได้สนทนาเกี่ยวกับโครงการ “Land Bridge” ซึ่งเป็นโครงการที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อทำให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางการขนส่งในภูมิภาคอาเซียน โดยจะเชื่อมโยงจากมหาสมุทรอินเดียไปยัง ประเทศในกลุ่ม BIMSTEC (Bangladesh, India, Myanmar, Sri Lanka, Thailand, Bhutan, Nepal) ซึ่งเป็นความพยายามในการส่งเสริมการค้าขายและการบูรณาการทางเศรษฐกิจในภูมิภาค

3. บริษัทโคคาโคล่า: ร่วมกันผลักดันเศรษฐกิจสีเขียว

นอกจากนี้ พลเอกประยุทธ์ ได้มีการพบกับคุณเจมส์ ควินซี่ ประธานและ CEO ของโคคาโคล่า บริษัทเครื่องดื่มชั้นนำของสหรัฐฯ ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับความก้าวหน้าในโครงการความร่วมมือที่สำคัญ โดยเฉพาะในด้านของการจัดการบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน โคคาโคล่าได้มีประสบการณ์ที่มากมายในด้านนี้ และพวกเขาได้แสดงความสมัครใจที่จะแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยน้ำ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียวในประเทศไทย

4. กลุ่มบริษัทไบเออร์: เน้นนโยบาย “30 บาทรักษาได้ทุกโรค”

ในระหว่างการพูดคุยกับสมาชิกคณะกรรมการกลุ่มบริษัทไบเออร์ รวมถึง CEO ของแผนกเภสัชกรรม คุณสตีฟ ออร์ลิช พลเอกประยุทธ์ ได้เน้นย้ำเกี่ยวกับความสำคัญของนโยบาย “30 บาทรักษาได้ทุกโรค” โดยระบุว่าการวิจัยทางการแพทย์ การพัฒนายา และเทคโนโลยีการรักษาใหม่ ๆ เป็นส่วนสำคัญที่สนับสนุนการดำเนินงานของนโยบายนี้ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาสุขภาพของประชาชน

5. บริษัทแอสตร้าเซนเนก้า: สนับสนุนไทยให้กลายเป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพและการแพทย์

ท้ายที่สุด พลเอกประยุทธ์ ได้พบกับคุณมิเชล เดอ มาเรย์ ประธานคณะกรรมการบริหารของแอสตร้าเซนเนก้า และได้แสดงความยินดีต่อแผนการลงทุนในประเทศไทยที่มุ่งเน้นไปยังโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคไตและมะเร็ง รวมถึงมะเร็งเต้านมและมะเร็งปอด พลเอกประยุทธ์ ได้ยืนยันว่ารัฐบาลไทยจะให้การสนับสนุนเต็มที่ในการลงทุนครั้งนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพและการแพทย์ภายในปี 2030

ที่มา: pptvhd36