18 มกราคม 2568 เวลา 16:02 น. 1192
ข่าวจากสำนักข่าวประเทศไทยรายงานเมื่อวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา ว่า นายสราวุฒิ ชัยศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับโครงการสร้างEntertainment Complex ซึ่งเขาชี้ว่าการดำเนินโครงการนี้จะส่งผลดีต่อการพัฒนาท่องเที่ยวในประเทศไทย ไม่เพียงแต่จะสามารถรองรับกิจกรรมระดับนานาชาติได้มากขึ้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวใหม่ ๆ ที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวจากหลากหลายกลุ่มให้เข้ามาเที่ยวไทยมากขึ้น
ท่ามกลางความกังวลของสาธารณชนเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่โครงการนี้อาจนำไปสู่การฟอกเงินหรือกิจกรรมผิดกฎหมายต่าง ๆ นั้น นายสราวุฒิ ชัยศิริ ได้กล่าวว่ารัฐบาลได้มีการวางแนวทางและมาตรการบริหารจัดการที่เข้มงวดสำหรับการดำเนินการในคาสิโนและEntertainment Complex อีกทั้งยังมีหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงในการตรวจสอบและควบคุมกิจกรรมที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด โดยวัตถุประสงค์นั้นเพียงเพื่อย้ายกิจกรรมการพนันที่เกิดขึ้นใต้ดินเข้าสู่กรอบกฎหมายที่ถูกต้อง ไม่ใช่เพื่อเปิดคาสิโนเสรี แต่เพื่อสร้างศูนย์รวมความบันเทิงที่หลากหลาย ซึ่งคาสิโนจะมีสัดส่วนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
เขาเสริมว่าการสร้างEntertainment Complex ถือเป็นการสร้างจุดท่องเที่ยวแบบใหม่ที่มุ่งรองรับความต้องการในการจัดกิจกรรมระดับนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ต งานแข่งขันกีฬา หรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่ปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับการจัดงานดังกล่าวอย่างเพียงพอ การผลักดันโครงการนี้จึงเป็นโอกาสให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภาคส่วนการท่องเที่ยวด้วย
นอกจากนี้ นายสราวุฒิ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยยังคงเน้นที่สถานที่ท่องเที่ยวประวัติศาสตร์และธรรมชาติเป็นหลัก ขณะที่ทรัพยากรเหล่านี้กำลังถูกทำลายอย่างรวดเร็ว การสร้างEntertainment Complex จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยในตลาดท่องเที่ยวระดับนานาชาติ โดยยกตัวอย่างประเทศสิงคโปร์ที่มีโมเดลที่ประสบความสำเร็จด้านการท่องเที่ยวมานานแล้ว
ข้อมูลจากการสำรวจระบุว่า โครงการEntertainment Complex จะสร้างการลงทุนมากกว่า 1,000 ล้านบาทในแต่ละส่วนของโครงการ โดยคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ ค่าธรรมเนียมในการออกใบอนุญาตและสัมปทานรวมจำนวนกว่า 500 ล้านบาท ซึ่งจะสร้างรายได้ที่สำคัญให้กับรัฐบาล ปีละประมาณ 100 ล้านบาท อีกทั้งยังคาดว่าจะทำให้จำนวนผู้มาเยือนประเทศไทยเพิ่มขึ้นระหว่าง 5-20% และการจับจ่ายใช้สอยเฉลี่ยต่อคนจะเพิ่มจาก 40,000 บาทเป็น 60,000 บาทต่อครั้ง
นายสราวุฒิ ยังเพิ่มความคาดหวังว่าไม่เพียงแต่จะเพิ่มจำนวนผู้มาเยือน หากแต่ยังต้องการดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีการใช้จ่ายสูง หากรัฐบาลสามารถส่งเสริมสถานที่ท่องเที่ยวเดิมและโครงการใหม่ ๆ ไปพร้อมกัน จะมีส่วนช่วยในการพัฒนาเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และการจ้างงานในระยะยาว ยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศไทยให้ดีขึ้น สรุปแล้วโครงการEntertainment Complex นี้จะถูกมองว่าเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย โดยที่จะนำไปสู่ผลกระทบในทางที่ดีในระยะยาว
(ที่มา:dailynews)