ชาวจีนในไทยถูกโจรกรรมในบ้าน คาดว่าอาจเป็นคนใกล้ชิดลงมือ

18 มกราคม 2568 เวลา 14:23 น.    141

มีรายงานจากสื่อไทยว่า เกิดเหตุขโมยทรัพย์สินภายในบ้านของนักธุรกิจชาวจีนในจังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 16 มกราคม โดยกลุ่มคนร้ายสามารถเปิดตู้นิรภัยและขโมยทรัพย์สินมูลค่ากว่า 100 ล้านบาทไทย ล่าสุดในวันที่ 17 มกราคม พลตำรวจเอกตะวาจิ ชลอจันทร์ ผู้บัญชาการตำรวจจังหวัดชลบุรี ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมมือในการติดตามและเร่งรัดการสอบสวนคดีนี้ให้มีความคืบหน้าโดยเร็ว

พลตำรวจเอกตะวาจิยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า รายการทรัพย์สินที่ถูกขโมยออกไปมีมูลค่าตามที่ถูกกล่าวอ้างหรือไม่ เนื่องจากเจ้าของบ้านซึ่งเป็นชาวจีนได้เดินทางกลับประเทศเมื่อหลายปีก่อน แต่ผู้แจ้งความซึ่งเป็นญาติสนิทกับเจ้าของบ้านได้อาศัยอยู่ในบ้านดังกล่าวประมาณ 4 เดือน การตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับทรัพย์สินในตู้นิรภัยยังอยู่ในระหว่างการต่อรองและเก็บรวบรวมข้อมูล

ในการสอบสวน ณ จุดเกิดเหตุนั้น ทีมสอบสวนได้พบกล่องเก็บนาฬิกาที่ทำจากไม้จำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นสินค้าที่หาซื้อได้ง่ายในตลาดหรือออนไลน์ ทำให้ยากที่จะแน่ชัดว่ามีการขโมยแบรนด์นาฬิกาใดไปบ้าง ขณะนี้ทางตำรวจมีแนวทางในการสืบสวนที่ชัดเจนมากขึ้น โดยเบื้องต้นได้ยืนยันว่ามีผู้ต้องสงสัยอย่างน้อย 2 รายที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ ผู้ต้องสงสัยดังกล่าวดูเหมือนจะมีความคุ้นเคยกับการจัดวางภายในบ้าน และเลือกเวลาในการลงมือขโมยในขณะที่ผู้ดูแลบ้านไม่อยู่ซึ่งอยู่ในช่วงเวลาที่ไปท่องเที่ยวกับครอบครัว

ในขณะเดียวกัน ชายชาวจีนอายุ 44 ปีที่ชื่อว่า จ้าว ถูกระบุว่าเป็นผู้ดูแลบ้าน ได้กลับไปที่สถานีตำรวจเพื่อตอบคำถามอีกครั้ง โดยมีการตรวจพบว่าสิ่งที่เขาให้การมีหลายจุดที่น่าสงสัยและมีการขัดแย้งกับหลักฐานอื่นๆ ขณะเขาและครอบครัวไปปรากฏตัวที่สถานีตำรวจ เขาเลือกที่จะหลีกเลี่ยงการให้สัมภาษณ์กับนักข่าว โดยไม่เปิดเผยข้อมูลใดๆ และได้ขับรถออกไปจากสถานีอย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ สื่อไทยยังได้รับภาพจากกล้องวงจรปิดภายในบ้านซึ่งบันทึกเหตุการณ์เกิดขึ้น โดยภาพเผยให้เห็นว่าผู้ต้องสงสัยสองคนได้ร่วมกันลงมือก่อเหตุ โดยทั้งสองคนมีการอำพรางตัวอย่างมิดชิด แสดงให้เห็นว่าพวกเขาใช้เครื่องมือในการเปิดประตูบ้านและใช้ไฟฉายในการค้นหาทรัพย์สิน ทั้งนี้ หนึ่งในผู้ต้องสงสัยได้ตระหนักถึงกล้องวงจรปิดและได้ทำให้กล้องหันไปที่กำแพงเพื่อปกปิดการกระทำของตน ขณะนี้ทีมสอบสวนกำลังติดตามเบาะแสของผู้ต้องสงสัยอย่างเต็มที่เพื่อนำตัวมาควบคุมและดำเนินคดีตามกฎหมาย

(ที่มา: ch7hd_news, thairath)