ใครคือผู้เบื้องหลังการฉ้อโกงนายกรัฐมนตรีไทย

18 มกราคม 2568 เวลา 19:53 น.    769

ตามรายงานจากสื่อไทยเมื่อวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา ระบุว่า พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เข้าร่วมการสัมมนาในฐานะวิทยากรที่ศูนย์ประชุมภูมิภาคแม่น้ำโขง มหาวิทยาลัยนครพนม ซึ่งดึงดูดความสนใจจากประชาชนจำนวนมาก ทักษิณได้กล่าวเปิดงานด้วยความรู้สึกปลื้มปิติว่า “วันนี้ได้เห็นคนในนครพนมมากมายให้ความสนใจ ผมรู้สึกขอบคุณและมีความสุขจริงๆ นี่เป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปีที่ผมกลับมาที่นี่ มหาวิทยาลัยแห่งนี้ถูกก่อตั้งขึ้นในยุครัฐบาลไทยรักไทยของเรา ซึ่งในตอนนั้นเราได้รวมทรัพยากรจากวิทยาลัยต่างๆ มาสร้างสถาบันที่ให้บริการการศึกษาแก่คนในพื้นที่ ตอนนี้ได้พบทุกคนอีกครั้งทำให้ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการได้พบปะกับคนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ผมชื่นชมมาก การสนับสนุนจากทุกคนทำให้ผมยืนหยัดได้ถึงทุกวันนี้และได้กลับมาที่เมืองไทย”

ในช่วงการบรรยาย ทักษิณได้กล่าวถึงจุดประสงค์ในการกลับมายังประเทศไทย โดยมีความมุ่งหมายเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ เขาได้กล่าวว่า “เมื่อเห็นชาวบ้านต้องเผชิญกับความยากลำบาก ผมไม่สามารถนั่งเฉยๆ ได้ ผมพร้อมที่จะช่วยทุกท่านในการแก้ไขหนี้สินและมีชีวิตที่มีความสุขอีกครั้ง ผมเป็นคนที่รู้คุณค่าต่อผู้มีพระคุณ รู้ว่าการสนับสนุนจากชาวนครพนมและพื้นที่ต่างๆ มีความสำคัญอย่างไร ดังนั้นในการกลับมาครั้งนี้ ผมจะตอบแทนผ่านการกระทำที่เป็นรูปธรรม เพื่อให้ประเทศไทยมีอนาคตที่ดี”

ทักษิณยังได้กล่าวถึงปัญหายาเสพติดด้วยน้ำเสียงที่แน่วแน่ว่า “ยาเสพติดนั้นสร้างความเจ็บปวดให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก ผมขอเตือนเหล่าพ่อค้าว่า หากต้องการมีชีวิตที่ดีจะต้องเลิกทำการค้ายาเสพติด ยาเสพติดไม่เพียงแต่ทำร้ายคนอื่น แต่ยังทำร้ายตัวเองด้วย ในปีนี้ผมหวังว่าปัญหายาเสพติดจะได้รับการควบคุมอย่างทั่วถึง” นอกจากนี้ เขายังพูดถึงปัญหาการฉ้อโกงทางโทรศัพท์ โดยยกตัวอย่าง นายกรัฐมนตรีเผด็จ แพตตินแบงค์ ได้เคยตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงที่มีการใช้เทคโนโลยี AI สร้างเสียงปลอมของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อหลอกลวงให้โอนเงินไปยังบัญชีในฮ่องกง ซึ่งการฉ้อโกงเหล่านี้ส่วนใหญ่จะมีกลุ่มผู้กระทำความผิดตั้งอยู่ที่พม่าและกัมพูชา ขณะนี้กัมพูชาได้ให้ความร่วมมืออย่างใกล้ชิด ขณะที่สถานการณ์ในพม่าไม่น่าห่วงจนเกินไป เราหวังว่าจะสามารถจัดการกับปัญหานี้ได้ภายในปีนี้”

ทักษิณได้เปิดเผยถึงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลจะดำเนินการ โดยในวันที่ 27 มกราคมนี้ รัฐบาลจะมอบเงินสนับสนุนจำนวน 10,000 บาทให้กับประชาชนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ขณะที่กลุ่มประชาชนที่มีอายุต่ำกว่านั้นจะต้องรอจนถึงเดือนมีนาคมเมื่อเทคโนโลยีกระเป๋าเงินดิจิทัลเปิดให้บริการ เขาได้กล่าวว่า “มาตรการนี้จะช่วยผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจและช่วยกระตุ้นการหมุนเวียนของเงินไปสู่เศรษฐกิจในท้องถิ่นเรากำลังศึกษาแนวคิดใหม่ๆ สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อให้แน่ใจว่าเงินในชนบทจะไม่สูญหายไป”

เมื่อพูดถึงประเด็นการศึกษาทักษิณกล่าวว่า เขาและนายกรัฐมนตรีเผด็จมีการหารือเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ของประเทศทุกวัน เขาเชื่อว่า “เผด็จมีมุมมองที่ทันสมัยในขณะที่ผมมีประสบการณ์ที่หลากหลาย ทั้งสองอย่างนี้รวมกันจะสร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ให้กับอนาคตของประเทศไทย”

นอกจากนี้ เขายังได้เปิดเผยแผนการปฏิรูปทางการศึกษาในหลายด้าน ซึ่งรวมถึงการกลับมาเริ่มโครงการแจกแท็บเล็ตให้นักเรียน สนับสนุนการสร้าง “โรงเรียนในฝันหนึ่งจังหวัดหนึ่งแห่ง” ให้โอกาสนักเรียนได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างประเทศ (เช่น ค่ายฤดูร้อน การศึกษาในต่างประเทศ) รวมถึงเชิญผู้สอนชาวต่างชาติให้มาสอนในประเทศไทย ทักษิณได้ยืนยันว่า “ภายในสิ้นภาคการศึกษาปีหน้า จะมีการเปลี่ยนแปลงที่น่าตื่นเต้นมากมายในวงการการศึกษาไทย”

ที่มา: matichon, ch7hd_news