ไทยเปิดทางกฎหมาย คู่รักเพศเดียวกันเตรียมจดทะเบียนสมรสอย่างเป็นทางการ

14 มกราคม 2568 เวลา 16:13 น.    698

เมื่อวันที่ 13 มกราคม ที่ผ่านมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของประเทศไทย ได้เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “ธงแห่งความรักทั่วประเทศ” ซึ่งมีหัวข้อหลักว่า “ความเท่าเทียมในสถานภาพการแต่งงาน ยินดีต้อนรับความรักทุกแบบ - 878 อำเภอทั่วประเทศร่วมกันยอมรับความเท่าเทียม” โดยในพิธีเปิดนี้ได้เน้นย้ำว่าความรักและความเท่าเทียมเป็นสิทธิพื้นฐานที่ทุกคนควรได้รับ สิ่งนี้จัดขึ้นโดยกระทรวงมหาดไทยร่วมกับทีมงานสหประชาชาติในประเทศไทย

การจัดกิจกรรมครั้งนี้ถือเป็นการส่งเสริมหลักการของความเท่าเทียมและความยุติธรรมอย่างเป็นรูปธรรมทั่วทั้งประเทศไทย ในพิธีเปิด นายอนุทินได้กล่าวว่า นอกจากกระทรวงมหาดไทยแล้ว ยังมีแผนจะให้บริการต่างๆ แก่ประชาชนตามพระราชบัญญัติความเท่าเทียมในการแต่งงาน (หรือที่รู้จักกันในชื่อร่างพระราชบัญญัติการแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ฉบับที่ 24) ซึ่งเป็นกฎหมายที่มุ่งมั่นที่จะรับรองสิทธิในการแต่งงานของทุกคู่รัก

นายอนุทินยังได้กล่าวชัดเจนว่าความร่วมมือระหว่างกระทรวงมหาดไทยกับทีมงานสหประชาชาติในประเทศไทยนี้ถือเป็นพลังสำคัญในการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและความเท่าเทียม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือใกล้ชิดระหว่างประเทศไทยกับสหประชาชาติ โดยรัฐบาลไทยให้ความสำคัญต่อความเท่าเทียมและสิทธิมนุษยชนในภาคบริการสาธารณะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการดำเนินงานเกี่ยวกับพระราชบัญญัติความเท่าเทียมในการแต่งงาน ที่กฎหมายนี้จะช่วยปกป้องสิทธิในการแต่งงานของคู่รักทุกคน

นายอนุทินกล่าวว่า “ในฐานะที่เป็นหน่วยงานกลางในการลงทะเบียนการแต่งงาน กระทรวงมหาดไทยและสำนักงานการปกครองท้องถิ่นรู้สึกภูมิใจที่สามารถผลักดันโครงการนี้ได้ ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นในการให้บริการที่ยึดถือความเท่าเทียมและความยุติธรรม เราสัญญาว่าจะให้บริการการลงทะเบียนการแต่งงานที่สะดวกและเป็นไปตามกฎหมาย รวมถึงการรับประกันสิทธิของคู่รักทั้งหมด และเพิ่มความมั่นใจแก่ประชาชนในการเคารพความหลากหลายและรักษาศักดิ์ศรีของมนุษย์” นอกจากนี้ ประเทศไทยในฐานะที่เป็นประเทศใหม่ที่นำกฎหมายความเท่าเทียมในการแต่งงานมาใช้ ก็มีความรับผิดชอบที่สำคัญในการดำเนินการดังกล่าว ซึ่งความเคลื่อนไหวนี้ยังเกี่ยวข้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) โดยเฉพาะเป้าหมายที่ 5 (ความเท่าเทียมทางเพศ) และเป้าหมายที่ 10 (การลดความไม่เท่าเทียม)

นายอนุทินยังให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า กิจกรรมในวันนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ของประเทศไทยในระดับสากล แต่ยังช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นของประชาชนต่อระบบบริการที่โปร่งใส ยุติธรรม และเป็นธรรม โดยเขาได้ขอบคุณทีมงานสหประชาชาติในประเทศไทยและองค์กรทุกแห่งที่เข้าร่วมสนับสนุน และจัดการให้มีความร่วมมือที่แข็งขันในการยืนหยัดต่อแนวคิด “ความรักไม่รู้จักพรมแดน” และ “ความเท่าเทียม” ที่ทุกคนควรได้รับ

จากข้อมูลที่ทราบในขณะนี้ กระทรวงมหาดไทยของไทยได้เตรียมความพร้อมในทุกแง่มุมเพื่อรับรองการลงทะเบียนที่ตั้งอยู่ใน 878 อำเภอทั่วประเทศ รวมถึง 50 เขตในกรุงเทพฯ และ 94 สถานทูตและสถานกงสุลไทยในต่างประเทศ โดยจะมีการสนับสนุนกฎหมายความเท่าเทียมในการแต่งงานที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 22 มกราคม ปี 2025