รัฐมนตรีไทยไฟเขียว! ร่างกฎหมาย "คาสิโนถูกกฎหมาย" สร้างความหวังกระตุ้นเศรษฐกิจ

13 มกราคม 2568 เวลา 14:54 น.    197

ข่าวจากสำนักข่าวไทยเฮดไลน์ เมื่อวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีประยุทธ์ จันทร์โอชา หลังจากการประชุมคณะรัฐมนตรี แจ้งว่า ที่ประชุมได้มีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติการรวมกิจกรรมบันเทิง ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับการอนุญาตให้มีคาสิโน โดยกระทรวงการคลังเป็นผู้ร่างกฎหมายนี้ขึ้น โดยคณะกรรมการกฎหมายยืนยันว่าไม่จำเป็นต้องร่างกฎหมายใหม่ แต่จะต้องปรับคำบางส่วนเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายที่ได้แถลงต่อรัฐสภา และเสริมว่าการดำเนินการให้มีกฎหมายนี้โดยเร็วจะเป็นประโยชน์ต่อชาติ

นายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงว่าร่างกฎหมายนี้จะรวมถึงการจัดตั้งคณะกรรมการนโยบายและการบริหารกิจกรรมบันเทิง เพื่อกำหนดมาตรฐานในการออกใบอนุญาตการดำเนินกิจการ โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ดึงดูดการลงทุนจากทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการแก้ไขปัญหาการพนันที่ผิดกฎหมายในปัจจุบัน เพื่อให้เกิดผลกระทบเชิงบวกอย่างครอบคลุมในอนาคตของประเทศ

นายกรัฐมนตรีย้ำว่าคณะกรรมการกฎหมายได้ยืนยันว่าไม่จำเป็นต้องเขียนกฎหมายใหม่ แต่จะต้องปรับแก้เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว หากการปรับแก้เสร็จสิ้น กฎหมายนี้ก็สามารถเสนอให้รัฐสภาพิจารณาได้โดยตรง โดยไม่ต้องนำกลับไปรับการอนุมัติจากการประชุมคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง นอกจากนี้ หากกฎหมายนี้สามารถผ่านได้อย่างรวดเร็ว จะนำผลประโยชน์อย่างมากมายมาสู่ประเทศ นายกรัฐมนตรียังได้ยกตัวอย่างจากจีนซึ่งมีกฎหมายว่าด้วยการดำเนินกิจกรรมบันเทิงในรูปแบบเดียว กันซึ่งมีคาสิโนเพียง 10% และ 80-90% เป็นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว และแบบนี้ไม่เพียงแต่จะกระตุ้นการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว แต่ยังคือการขับเคลื่อน GDP ของประเทศ

เกี่ยวกับคำถามว่าการออกกฎหมายนี้จะมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศหรือไม่ นายกรัฐมนตรีให้คำตอบว่าควรจะวิเคราะห์จากสถานการณ์จริง ปัจจุบันปัญหาการพนันที่ผิดกฎหมายแพร่หลายในสังคม การนำกฎหมายมาใช้จะช่วยแก้ไขปัญหานี้ โดยสามารถควบคุมและกำกับดูแลกิจกรรมที่อยู่ในขอบเขตที่ถูกต้องตามกฎหมายได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้ รายได้ที่เกิดขึ้นจากกฎหมายนี้จะถูกเปลี่ยนเป็นรายได้ภาษีของประเทศอีกด้วย

นายกรัฐมนตรียังได้เน้นย้ำว่า เราจำเป็นต้องมองปัญหานี้ด้วยมุมมองที่ทันสมัย การผลักดันการจัดการที่โปร่งใสไม่เพียงแต่เป็นแนวทางใหม่ในการพัฒนาประเทศ แต่ยังเป็นความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลง แม้ว่าในระหว่างการดำเนินการนี้จะมีความจำเป็นต้องสื่อสารและอธิบายเพิ่มเติม แต่ในระยะยาวจะช่วยสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับประเทศไทยในการก้าวเข้าสู่การพัฒนาสูงสุดในอนาคต

(ที่มา: สำนักข่าวไทยเฮดไลน์)