เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติของไทย ได้มีการประชุมที่สำคัญซึ่งนำโดย พลตำรวจเอก ทัชชัย หัวหน้าศูนย์คุ้มครองเด็ก สตรี และครอบครัว พร้อมด้วยผู้แทนจากสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย นำโดยนายอู๋จื้ออู่ เพื่อหารือเกี่ยวกับการร่วมมือในการต่อสู้กับขบวนการค้ามนุษย์และองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะในแง่ของประเทศไทยซึ่งถูกใช้เป็นเส้นทางกลางในการค้ามนุษย์ ข้อมูลพื้นฐานที่สำคัญคือประเทศไทยตั้งอยู่ในภูมิภาคที่มีการเคลื่อนย้ายประชากรอย่างต่อเนื่อง ทำให้กลายเป็นต้นทุนของขบวนการผิดกฎหมายเหล่านี้

ในระหว่างการประชุม พลตำรวจเอก ทัชชัย ได้กล่าวว่าสำนักงานตำรวจทั้งสองประเทศมีแผนที่จะร่วมมือกันจัดตั้งศูนย์ประสานงาน ซึ่งจะมุ่งเน้นในการติดตามหาผู้ที่สูญหายหรือถูกหลอกลวงไปยังประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากนี้ ยังมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมของกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติ เช่น การฉ้อโกงทางโทรศัพท์ และการค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นปัญหาที่ซับซ้อนและจำเป็นต้องมีมาตรการควบคุมชายแดนที่เข้มงวดมากขึ้น เพื่อลดการกระทำผิดกฎหมาย
น่าสนใจว่าในปี 2565 มีผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ในไทยมากถึง 1,500 คน ซึ่งทำให้การดำเนินการทางกฎหมายมีความเร่งด่วนมากขึ้น

นอกจากนี้ พลตำรวจเอก ทัชชัย ยังได้เน้นย้ำว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างการจัดการชายแดนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการควบคุมการเดินทางข้ามชายแดนอย่างเข้มงวด เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดจากกิจกรรมผิดกฎหมาย โดยเฉพาะการต่อสู้กับกลุ่มอาชญากรรมที่ใช้วิธีการฉ้อโกงในต่างประเทศและการบังคับคนไทยให้เข้าร่วมในกิจกรรมอันผิดกฎหมาย

การประชุมในครั้งนี้ถือเป็นการสะท้อนถึงความตั้งใจที่จะต่อสู้กับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการจัดการกับกลุ่มอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงทางโทรศัพท์และการค้ามนุษย์ ทั้งนี้ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและมั่นคงสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังประเทศไทย

ผู้แทนจากฝั่งจีนที่เข้าร่วมในประชุมครั้งนี้ประกอบไปด้วย นายอู๋จื้ออู่ ผู้แทนสถานทูตจีนประจำประเทศไทย, นายพันจิ้น ที่ปรึกษาจากกองการงานย้ายถิ่นและการต่างประเทศ, นายเหวินหยงกัง ที่ปรึกษาสถานทูตและผู้ช่วยทางการตำรวจ, นายจ้าวอิงหนิง ผู้ช่วยทางการตำรวจ และนายหลี่เซี่ยวปู เลขานุการในกองการงานย้ายถิ่น

(แหล่งที่มา: thestandardth)