10 มาตรการจากกระทรวงพาณิชย์ สนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจไทย

10 มกราคม 2568 เวลา 17:54 น.    214

ตามรายงานจากสำนักข่าวไทยหัวข้อข่าว เมื่อวันที่ 10 มกราคม นายพิชัยรัตน์ มหิยะโน ตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ได้จัดการแถลงข่าวหลังการประชุมด่วนเพื่อพัฒนานโยบายสำคัญของกระทรวง โดยเขาได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการดำเนินงานในอนาคตและนโยบายต่างๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและการค้าของประเทศ

หนึ่งในวาระที่สำคัญคือการติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจและการค้าอย่างใกล้ชิด รวมทั้งการสื่อสารแผนงานของกระทรวงพาณิชย์และนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลให้ประชาชนได้รับทราบ

นายพิชัยรัตน์ยังได้เน้นเรื่องการผลักดันการลงนามกรอบความตกลงการค้าเสรี (FTA) มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเติบโตด้านการค้าขายและการลงทุน โดยเฉพาะความก้าวหน้าในการจัดทำข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างไทยและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่มีกำหนดลงนามในอนาคต ด้วยความหวังว่าผู้ลงทุนจากประเทศนั้นจะนำโครงการใหญ่ๆ เข้ามาในไทย

นอกจากนี้ นายพิชัยรัตน์ยังเตรียมที่จะไปเยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในประเด็นต่างๆ เช่น การค้ายาเสพติด, ศูนย์ข้อมูล และความมั่นคงด้านอาหาร

ในขณะที่การประชุมงานด้านเศรษฐกิจโลก (WEF) ถูกเตรียมการอย่างเข้มข้น รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์จะมีส่วนร่วมในการลงนามข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างไทยและสหภาพยุโรป (EFTA) และจะเข้าร่วมการเจรจาในหลายประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญ

และเพื่อแก้ไขปัญหาการจัดหาวัตถุดิบอาหารให้เพียงพอในระดับโลก กระทรวงพาณิชย์จะพัฒนาโครงการที่เชื่อมโยงกับความมั่นคงทางอาหารของประเทศต่างๆ ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้

ต่อมา ในการส่งเสริมการค้าข้าว นายพิชัยรัตน์ได้กล่าวถึงการปรับเปลี่ยนกฎระเบียบเพื่อสนับสนุนเกษตรกรและธุรกิจขนาดเล็ก โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความสามารถในการส่งออกข้าวไทยในตลาดโลก โดยการลดต้นทุนและสนับสนุนเกษตรกร นักพาณิชย์จะมีการประชุมกันอีกครั้งในวันที่ 17 มกราคม เพื่อหารือเกี่ยวกับแผนการดำเนินงานเพิ่มเติม

รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้มราคาสินค้าเกษตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังที่มีการนำเข้าสำหรับปีนี้จากจีน ซึ่งเริ่มฟื้นตัว มีกิจกรรมการส่งออกที่คาดว่าจะช่วยเสริมสร้างเสถียรภาพในด้านราคามันสำปะหลัง โดยคาดการณ์ว่าจะมีการเซ็นสัญญาซื้อขายถึงประมาณ 300,000 ตัน

ที่จะช่วยให้การเกษตรในไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าปี 2025 จะเป็น “ปีทอง” ของการเกษตรไทย

ในการปรับปรุงภาพลักษณ์แบรนด์ “Thai SELECT” จะมีการเชื่อมโยงร้านอาหารไทยให้มีมาตรฐานสอดคล้องกับมาตรฐานมิชลิน เพื่อเพิ่มการรับรู้ในระดับสากล

นายพิชัยรัตน์ย้ำถึงความสำคัญในการจัดการกับปัญหาสินค้านำเข้าที่ผิดกฎหมายและคุณภาพต่ำ โดยกระทรวงพาณิชย์จะเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบเพื่อลดผลกระทบต่อผู้ประกอบการและผู้บริโภคในประเทศ

ในการผลักดันการแปลงโฉมดิจิทัลของรัฐบาล กระทรวงพาณิชย์มีแผนที่จะสร้างแอปพลิเคชันบริการรวมเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการต่างๆ ของกระทรวงได้อย่างสะดวก

สุดท้าย นายพิชัยรัตน์ได้พูดถึงแผนการที่จะส่งเสริม “Thailand Brand” เพื่อพัฒนา SME ใหม่ๆ และเพิ่มความรู้จักในระดับสากล โดยเชื่อว่าในอนาคตผลิตภัณฑ์ไทยจะได้รับการยอมรับมากขึ้นในตลาดต่างประเทศ

โดยเขาสรุปว่า กระทรวงพาณิชย์จะใช้มาตรการต่างๆ เช่นการลดค่าธรรมเนียมและการควบคุมสต็อก เพื่อส่งเสริมความสามารถในการส่งออกของเกษตรกรและธุรกิจข้าวไทย โดยมีแผนการจัดเรียงขั้นตอนต่างๆ ให้ง่ายขึ้นเพื่อสร้างความสะดวกต่อผู้ประกอบการ ในขณะที่คาดว่าจะมีการประกาศแผนดำเนินงานในระยะแรกภายในเดือนมีนาคมนี้

โดยรัฐมนตรีตั้งใจที่จะเปิดตลาดข้าวอย่างเต็มที่ หากโปรแกรมนี้ดำเนินไปได้อย่างราบรื่น และยังยืนยันถึงความปรารถนาของนายกรัฐมนตรีในการควบคุมการผูกขาดในทุกด้าน

(ข้อมูลจาก: posttoday)