เมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา เวลา 16:00 น. ตามเวลาท้องถิ่น กรุงเทพมหานคร มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุการโจรกรรมและการฉ้อโกงที่เกี่ยวข้องกับประชาชนชาวจีนในประเทศไทย โดยมีเงินสดมูลค่าสูงถึงหลายล้านบาท ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เริ่มทำการสอบสวนแล้ว

เหตุการณ์แรกเกิดขึ้นที่ถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญในเขตห้วยขวาง โดยเหยื่อที่เป็นชาวจีนกำลังเตรียมตัวสำหรับการทำธุรกรรมแปลงสกุลเงินดิจิทัล โดยนำเงินสดจำนวน 5 ล้านบาทมาที่บ้านเช่าร่วมกับเพื่อน แต่ในระหว่างการใช้บริการ มีชายชาวจีนสองคนภายในบ้านและคนขับรถชาวไทยที่รออยู่ข้างนอกได้ร่วมมือกันโจรกรรมกระเป๋าถือสีดำของเหยื่อ ซึ่งภายในบรรจุเงินสดทั้งหมด

ผู้ต้องสงสัยได้กล่าวอ้างว่าตนได้ทำการโอนสกุลเงินดิจิทัลเข้าสู่บัญชีของเหยื่อแล้ว แต่เมื่อเหยื่อตรวจสอบกลับพบว่าไม่มีการรับโอนใดๆ เกิดขึ้น ส่งผลให้เกิดการโต้เถียงกันอย่างรุนแรง ก่อนที่ผู้ต้องสงสัยจะบังคับเอาเงินสดออกจากเหยื่อไป เจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าเหยื่อได้วางโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าที่ถูกโจรกรรม ซึ่งทำให้สามารถติดตามตำแหน่งสุดท้ายของโทรศัพท์ได้ โดยตำแหน่งสุดท้ายอยู่ใกล้สวนสาธารณะในเขตยานนาวา ตอนนี้ตำรวจได้เจรจากับผู้ต้องสงสัยชาวจีนเพื่อขอคืนเงินที่ถูกขโมยไป

ส่วนเหตุการณ์ที่สองเกิดขึ้นในย่านธุรกิจพระราม 9 โดยมีเหยื่อชาวจีนคนหนึ่งได้จัดการโอนเงินสดจำนวน 8 ล้านบาทสำหรับการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล ผ่านช่องทางส่วนบุคคล หลังจากชำระเงินแล้ว ผู้ต้องสงสัยกลับปฏิเสธที่จะส่งมอบเงินตามข้อตกลง และใช้โอกาสนี้ในการขับรถหลบหนีไป เหยื่อจึงได้เข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจห้วยขวาง โดยตำรวจได้จัดการกับเรื่องนี้ภายใต้ข้อหาฉ้อโกง และได้ติดต่อกับผู้ต้องสงสัยเพื่อเรียกเงินคืน

ทั้งสองกรณีมีเหยื่อที่เป็นชาวจีนได้เข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจห้วยขวาง เจ้าหน้าที่ตำรวจขอเตือนประชาชนอย่างให้ระมัดระวังในการทำธุรกรรมทางการเงินที่มีมูลค่าสูง โดยเฉพาะการทำธุรกรรมเงินสดหรือสกุลเงินดิจิทัลผ่านช่องทางส่วนตัว ควรเลือกใช้แพลตฟอร์มการทำธุรกรรมที่มีความน่าเชื่อถือและปลอดภัยเพื่อป้องกันการถูกหลอกลวง

(แหล่งข่าว: ch7hd_news, pptvhd36)