08 มกราคม 2568 เวลา 12:28 น. 885
ตามรายงานจากสำนักข่าวไทย เมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา เกี่ยวกับการหายตัวไปของนักแสดงชาวจีนที่มีชื่อว่า "หวังซิง" (หรือเรียกในวงการว่า "ซิงซิง") บริเวณพรมแดนไทย-เมียนมา เหตุการณ์นี้ถือเป็นการทดสอบครั้งสำคัญสำหรับรัฐบาลไทยในปี 2025 ภายหลังจากที่ปีใหม่เริ่มต้นขึ้น หลายหน่วยงานของรัฐบาลไทยได้รวมตัวกันเพื่อค้นหานักแสดงรายนี้ พร้อมทั้งพยายามส่งสัญญาณว่า "ประเทศไทยปลอดภัย" ไปยังนักท่องเที่ยวชาวจีน เพื่อกระตุ้นให้พวกเขามาเยือนประเทศไทยในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่จะถึงในปลายเดือนมกราคมปี 2025 โดยในปี 2024 นั้น นักท่องเที่ยวชาวจีนยังคงเป็นกลุ่มที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยมากที่สุด โดยมีจำนวนสูงถึง 6.73 ล้านคน
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย ได้แถลงในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 มกราคมว่าได้มีการค้นพบหวังซิงในเขตอำเภอแม่สอด และจะส่งตัวเขากลับประเทศไทยโดยเร็วที่สุด นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้มอบหมายให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมดำเนินการควบคุมข่าวลือที่เกิดขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย
นางทัปพญา ผบ.ททท. (การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย) กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากทราบข่าวการหายตัวไปของนักแสดงชาวจีน รายละเอียดในโซเชียลมีเดียจีนได้รับความสนใจอย่างมาก แต่สภาพการณ์ไม่ส่งผลกระทบต่อแผนการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวจีนในขณะนี้ ทั้งการเดินทางและการจองท่องเที่ยวได้มีความคึกคักไม่เปลี่ยนแปลง
จากข้อมูลล่าสุด ยืนยันว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่กรณีการลักพาตัว โดยสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยในประเทศจีนทั้งห้าสาขาจะยังคงติดตามความเคลื่อนไหวต่อไป การจัดการข่าวสารเชิงลบที่เกิดขึ้นยังเป็นภารกิจของททท. ที่ทำงานเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง และเตือนนักท่องเที่ยวให้ระมัดระวังเกี่ยวกับปัญหาความปลอดภัยทางไซเบอร์ เช่น การหลอกลวงผ่านศูนย์บริการลูกค้า ขณะนี้ปัญหาความปลอดภัยทางไซเบอร์ได้กลายเป็นปัญหาชั่วข้ามชาติที่ต้องให้ความใส่ใจเป็นอย่างยิ่ง โดยประชาชนควรต้องตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบคอบเมื่อทำการชำระเงินออนไลน์
ทัปพญายังกล่าวต่อไปว่า การแพร่กระจายข่าวสารบนโซเชียลมีเดียนั้นรวดเร็วมาก ททท. จึงมีแผนที่จะติดตามและตอบสนองต่อวิกฤตออนไลน์โดยตลอด รวมถึงการตรวจสอบอารมณ์ของประชาชนผ่านโซเชียลมีเดียอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ททท. ยังได้ร่วมมือกับกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยวเพื่อสร้างภาพลักษณ์ "ความปลอดภัย" ของประเทศไทย โดยมุ่งเน้นให้มั่นใจว่านักท่องเที่ยวจะได้รับความปลอดภัยเมื่อมาเยือนรัฐบาลไทยมีความจริงจังในการรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง โดยยึดหลักการท่องเที่ยวที่สำคัญสามประการได้แก่ ความปลอดภัย คุณภาพ และประสบการณ์
ในปี 2025 จะเป็นโอกาสครบรอบ 50 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ไทย-จีน โดยททท. คาดหวังว่ายอดนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้จะมีจำนวนมากกว่าปีก่อนหน้า
สำหรับเป้าหมายการท่องเที่ยวในตลาดจีนในปี 2025 ททท. คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาทั้งสิ้นประมาณ 9 ล้านคน และในกรณีที่ดีที่สุดอาจจะมีการเติบโตถึง 10 ล้านคน ซึ่งคาดว่าจะสร้างรายได้ประมาณ 500,000 ล้านบาทแก่ประเทศไทย โดยนักท่องเที่ยวแต่ละรายใช้จ่ายโดยเฉลี่ยในแต่ละครั้งประมาณ 48,000-49,000 บาท
ด้วยการฟื้นตัวของเที่ยวบินประจำและเที่ยวบินเช่าเหมาลำจากเมืองระดับสองและสามในจีน กลยุทธ์การส่งเสริมตลาดของททท. ได้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี นอกจากเมืองใหญ่ในจีน เช่น เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง กวางโจว ฉงชิ่ง และคุนหมิง ททท. ยังมุ่งเน้นการเชื่อมโยงเที่ยวบินกับเมืองระดับสามของจีน โดยข้อมูลล่าสุด ณ เดือนมกราคม 2025 พบว่าการเดินทางระหว่างสองประเทศได้ฟื้นตัวแล้วถึง 80% ซึ่งใกล้เคียงกับระดับการฟื้นตัวของเที่ยวบินระหว่างประเทศ
นอกจากนี้ ทัปพญายังเปิดเผยว่าขณะนี้รัฐบาลจีนมีความพึงพอใจกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะในการส่งเสริมการเดินทางของนักท่องเที่ยวไทยไปยังจีน ททท. ได้ทำงานร่วมกับทุกฝ่ายเพื่อเพิ่มปริมาณผู้โดยสารบนเที่ยวบินต่าง ๆ และส่งเสริมการเพิ่มจำนวนเที่ยวบิน เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวจีนให้กลับมาเยือนประเทศไทยอีกครั้ง
(แปลโดย: Juliette;ตรวจสอบโดย: wan;แหล่งที่มา: bangkokbiznews)