08 มกราคม 2568 เวลา 08:42 น. 358
เมื่อวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมา เจริญ อมรพัฒนานนท์ โฆษกสำนักงานนายกรัฐมนตรีของไทย ได้เปิดเผยถึงนโยบายใหม่ประจำปีที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายในการกระตุ้นเศรษฐกิจและสนับสนุนให้ GDP ของประเทศขยายตัวเกิน 3% โดยนายพงษ์มิน เลขานุการนายกรัฐมนตรี ได้มีการเปิดเผยถึงแนวทางในการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งรัฐบาลจะมุ่งเน้นการสนับสนุน 5 อุตสาหกรรมหลักในอนาคต ได้แก่ ปัญญาประดิษฐ์ (AI), ศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่, รถยนต์ไฟฟ้า, เกษตรอัจฉริยะ และเทคโนโลยีอาหารสมัยใหม่
นายพงษ์มิน ยังได้พูดถึงแผนที่รัฐบาลจะลงทุนในปีนี้ที่จะสูงถึง 7-8 แสนล้านบาท โดยจะมีการจัดการลงทุนโดยเฉพาะจากกระทรวงคมนาคม, กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อทำให้การสนับสนุนทั้งในและต่างประเทศมีความสะดวกและต่อเนื่อง รวมถึงการปรับปรุงกฎหมายเพื่อให้การลงทุนมีความง่ายขึ้น
สำหรับการลงทุนในอนาคต รัฐบาลจะสนับสนุนการดึงดูดทุนจากภาคการลงทุนในสายการผลิต โดยมุ่งหวังในการเซ็นสัญญากับบรรษัทขนาดใหญ่ เช่น อเมซอน, กูเกิล, ไมโครซอฟท์, และหัวเว่ย ในการสร้างศูนย์ข้อมูลในไทย รวมทั้งพัฒนาธุรกิจในด้านปัญญาประดิษฐ์ เพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น เซมิคอนดักเตอร์
นอกจากนี้ นายพงษ์มิน ยังได้เน้นย้ำว่ารัฐบาลจะปรับปรุงและพัฒนากฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อขจัดอุปสรรคในการลงทุน โดยจะมีการทำให้ขั้นตอนการดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างราบรื่น ลดเวลาในการอนุมัติจากภาครัฐ และเพิ่มความน่าสนใจในด้านการลงทุน นอกจากนี้ ประเทศไทยยังมีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางด้านการขนส่ง การค้า และการติดต่อสื่อสารในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรัฐบาลจะยังคงให้การสนับสนุนสันติภาพและความมั่งคั่งร่วมกัน ทุกอย่างนี้จะดึงดูดแรงงานที่มีทักษะและนักลงทุนให้มาทำธุรกิจในไทย
นายเจริญ กล่าวเสริมว่า ในปี 2025 รัฐบาลไทยจะยังคงมีการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อสร้างโอกาสให้กับประชาชนและเพิ่มรายได้ตอบสนองความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวซึ่งเป็นเครื่องยนต์หลักของเศรษฐกิจ รัฐบาลจะยังคงใช้กลยุทธ์ด้านการท่องเที่ยวที่หลากหลายเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวทั้งที่ระดับประเทศและต่างประเทศ มุ่งหวังให้มี "ไม่มีฤดูโล่ง" โดยมีเป้าหมายในการดึงดูดนักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น และคาดว่ารายได้จากการท่องเที่ยวในปีนี้จะสูงกว่าปีก่อนหน้า
(แปลโดย: KA ; แหล่งที่มา: thairath)