กระทรวงคมนาคมตั้งเป้าหมายลดอุบัติเหตุปีใหม่ลง 5% พร้อมมาตรการเข้มงวด

07 มกราคม 2568 เวลา 07:05 น.    1113

กระทรวงคมนาคมของประเทศไทยได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการในช่วงปีใหม่ เพื่อจัดการกับเหตุการณ์ฉุกเฉิน โดยกำหนดเป้าหมายลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุลง5%ในช่วงเวลาแห่งการเดินทางนี้。

 

เมื่อเร็ว ๆ นี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายสุขีย์ ได้เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้กำหนดนโยบายให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อให้การเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่เป็นไปอย่างสะดวกสบายและปลอดภัย ทุกการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นทางบก, ทางรถไฟ, ทางน้ำ หรือทางอากาศ จะต้องเชื่อมโยงกันอย่างมีประสิทธิภาพ。เพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่าพวกเขาจะสามารถเดินทางถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย กระทรวงได้มอบหมายให้หน่วยงานที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลติดตามการเดินทางของประชาชนอย่างใกล้ชิด พร้อมกับทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน เพื่อรักษาชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

 

ศูนย์การดำเนินงานด้านความปลอดภัยทางจราจรจะเปิดทำการตั้งแต่27 ธันวาคม 2024 ถึง 2 มกราคม 2025 เพื่อให้มั่นใจว่าระบบขนส่งมีความปลอดภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่ ศูนย์นี้จะทำงานควบคู่กับหน่วยงานที่ควบคุมข้อมูลการเดินทาง โดยจะมีการใช้ระบบกล้อง CCTV จาก8 แห่งในการติดตามสถานการณ์การจราจรและความหนาแน่นของผู้โดยสาร รวมทั้งการตรวจสอบความพร้อมของระบบขนส่งสาธารณะ การตรวจสอบความเร็วของรถยนต์โดยสาร และการจัดการเวลาทำงานของคนขับ หากพบว่ามีการขับรถเกินความเร็ว จำกัด หรือมากเกินเวลาที่กำหนด ระบบจะแจ้งเตือนไปยังกรมการขนส่งทางบกที่ต้องมีการดำเนินการตาม。นอกจากนี้ ยังมีการตรวจสอบอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในช่วงเทศกาล หากมีเหตุการณ์เกิดขึ้น ระบบจะส่งสัญญาณฉุกเฉินออนไลน์เพื่อให้สามารถระบุตำแหน่งและจัดการต่อไปได้อย่างรวดเร็ว โดยมีเป้าหมายในการลดจำนวนอุบัติเหตุและผู้บาดเจ็บลงให้ได้5% เมื่อเปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยใน3 ปีที่ผ่านมา。

 

นายสุขีย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงคมนาคมจะทำให้การทำงานของหน่วยงานต่าง ๆ มีความสะดวกสบายมากขึ้น โดยกรมการขนส่งทางบกได้จัดตั้งศูนย์รับประกันความปลอดภัยของผู้โดยสารขนส่งสาธารณะ 24 ชั่วโมง รับเรื่องราวร้องทุกข์ ซึ่งมีเป้าหมายป้องกันไม่ให้ผู้โดยสารถูกหลอกลวงหรือเผชิญกับการปฏิบัติที่ไม่ดีในขณะใช้บริการขนส่งสาธารณะ โดยมีการทดลองใช้ระบบ「ตรวจสอบและยืนยันความพร้อม」 ซึ่งเข้มงวดการตรวจสอบความพร้อมของรถยนต์ก่อนเริ่มดำเนินการในทุก ๆ วัน โดยจะมีการตรวจสอบที่สถานีผู้โดยสารและจุดพักรถใน13 จังหวัด และ26 จุดตรวจหลัก。

 

กรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบทได้ทำการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานทางถนนเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง ซึ่งจะมีการติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัย และตรวจสอบความพร้อมของระบบไฟฟ้า ติดตั้งกล้อง CCTV และระบบสื่อสาร รวมถึงการจัดเตรียมเจ้าหน้าที่คอยให้บริการความปลอดภัยแก่ประชาชนด้วย。บริษัท ขนส่ง (Transport Company Limited) ได้วางแผนการดำเนินการในการจัดการพื้นที่การจอดรถของผู้โดยสารที่สถานีขนส่งหมอชิต เพื่อรองรับการไหลของผู้คนที่มีทั้งหมด โดยเตรียมรถบัสให้บริการทั้งรถบัสประจำทางและรถบัสพิเศษเพิ่มเติม30 คัน เพื่อรองรับความต้องการของประชาชน และเพิ่มจำนวนสถานีรถบัสที่ สถานีขนส่งกลาง เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ที่จะมุ่งหน้าไปยังระบบรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสายสีแดง。

 

สำนักงานทางพิเศษแห่งประเทศไทย (EXAT) ได้จัดตั้งหน่วยงานบริการสาธารณะเพื่อให้บริการปรับปรุงพื้นฐานการทำงานแก่ผู้ใช้บริการบนทางหลวงที่เข้าสู่กรุงเทพมหานคร โดยมีการให้บริการเช็คเครื่องยนต์ฟรี การสอบถามเส้นทาง และบริการน้ำดื่ม นอกเหนือจากนี้ ตั้งแต่วันที่25 ธันวาคม2024 จนถึง 3 มกราคม 2025 ได้มีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเพื่อควบคุมและจัดการปัญหาการจราจรและอุบัติเหตุบนทางหลวง。

 

ทั้งนี้ การทางรถไฟแห่งประเทศไทยได้เพิ่มจำนวนเที่ยวรถพิเศษสำหรับเส้นทางเหนือ, ตะวันออก, ตะวันออกเฉียงเหนือ และใต้ โดยมีการเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ต้องมีความเอาใจใส่ในการดูแลความปลอดภัยของผู้โดยสาร โดยการติดตั้งระบบกล้องวงจรปิดเพื่อตรวจสอบสถานีและความปลอดภัยบนรถไฟ อีกทั้งได้มีการตรวจสอบระดับแอลกอฮอล์ของพนักงานก่อนปฏิบัติหน้าที่ และห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในรถไฟและที่สถานี โดยจัดตั้งศูนย์ความปลอดภัยทั่วประเทศที่มีการให้บริการตลอด24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่27 ธันวาคม 2024 เป็นต้นไป เพื่อรับเรื่องร้องเรียนและประสานงานต่าง ๆ。

 

กรมเจ้าท่าก็ได้จัดทำแผนปฏิบัติการและมาตรการความปลอดภัยในช่วงปีใหม่ 2025 โดยสั่งการให้มีการจัดตั้งจุดบริการตามท่าเรือ 79 แห่ง ระหว่างวันที่27 ธันวาคม 2024 ถึง 2 มกราคม 2025 พร้อมกันนี้มีการจัดส่งเจ้าหน้าที่กว่า800 คนมาให้ความดูแลอย่างเข้มงวดในเรื่องความปลอดภัย การเข้าใช้ทางน้ำและบริการเรือโดยสาร รวมถึงการป้องกันอุบัติเหตุทางน้ำ。

 

บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (AOT) คาดการณ์ว่าสถานการณ์การเดินทางในช่วงนี้ จะมีผู้โดยสารกว่า2.8 ล้านคน ที่จะใช้บริการในสนามบินสำคัญ ๆ ของประเทศไทย ซึ่งจะแบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศประมาณ1.8 ล้านคน และผู้โดยสารภายในประเทศอีก1.0 ล้านคน โดย AOT ได้เตรียมความพร้อมในด้านต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้โดยสาร รวมถึงการจัดหาอุปกรณ์ พนักงานที่ให้บริการ ต่าง ๆ รวมถึงการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการจัดการสนามบิน。จากนั้น สมาคมการบินแห่งประเทศไทย (CAAT) ได้ตรวจสอบราคาตั๋วภายในประเทศที่สนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง และสั่งการให้สายการบินต้องรักษามาตรฐานในเรื่องของการตรงต่อเวลาและคุณภาพการบริการ ขณะเดียวกันก็มีการตรวจสอบแบบสุ่มในกระบวนการปฏิบัติงาน เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยของผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการ。

-ศูนย์ปฏิบัติการด้านความปลอดภัยทางจราจร โทรศัพท์1356

-ศูนย์ปกป้องผู้โดยสารขนส่งสาธารณะ โทรศัพท์1584

-ศูนย์ควบคุมกรมทางหลวง โทรศัพท์1586

-ศูนย์ความปลอดภัยกรมทางหลวงชนบท โทรศัพท์1146

-ศูนย์บริหารจัดการการขนส่งสาธารณะกรุงเทพมหานคร โทรศัพท์1348

-บริษัทขนส่ง โทรศัพท์1490

-สำนักงานทางพิเศษแห่งประเทศไทย โทรศัพท์1543

-สายด่วนกรมเจ้าท่า โทรศัพท์1199

-ศูนย์บริการลูกค้า การรถไฟแห่งประเทศไทย โทรศัพท์1690

-การจัดการการขนส่งสาธารณะในประเทศไทย โทรศัพท์0 2716 4044

-ศูนย์บริการสนามบินประเทศไทย (AOT) โทรศัพท์1722

-ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือการค้นหาเครื่องบินและเรือ โทรศัพท์0 2286 0506