ปี 2025 คาดพิสูจน์ความสำเร็จของคลังสินค้าในเขตอุตสาหกรรม จากการเติบโตของทุนต่างชาติและอีคอมเมิร์ซ

07 มกราคม 2568 เวลา 07:12 น.    166

 

การขยายฐานการผลิตในภูมิภาคอาเซียน การเติบโตของอีคอมเมิร์ซ และการลงทุนในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า กำลังผลักดันให้ธุรกิจการเช่าคลังสินค้าของบริเวณนิคมอุตสาหกรรมในประเทศไทย กลายเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2025 นี้

 

จากการเปิดเผยของบริษัท Colliers International ประเทศไทย ระบุว่า ตลาดการเช่าคลังสินค้าในนิคมอุตสาหกรรมจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2024 คาดว่าจะมีพื้นที่การเช่าใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 350,000 ตารางเมตร ซึ่งครอบคลุมธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ผู้บริโภค และศูนย์จัดส่งสินค้า โดยความต้องการพื้นที่คลังสินค้าที่มีคุณภาพเพิ่มสูงขึ้น เป็นที่มาของความสำเร็จในการให้เช่าพื้นที่ของผู้พัฒนาหลัก ที่สามารถตอบสนองเป้าหมายและเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ตามช่วงเวลาที่เหมาะสม

 

นอกจากนี้ ในช่วงสามไตรมาสแรกของปีที่ผ่านมา มูลค่าการขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมทำลายสถิติใหม่ด้วยยอดขายที่สูงกว่า 6,071 ไร่ เพิ่มขึ้น 50.12% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน และในภูมิภาคเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) เป็นจุดหมายหลักสำหรับการลงทุนจากต่างประเทศ โดยมีการขายที่ดินมากกว่า 90% ที่เกิดขึ้นในพื้นที่นั้น

 

Collliers International ประเทศไทย ยังคาดการณ์ว่าการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมจะได้รับการสนับสนุนจากการจัดตั้งฐานการผลิตใหม่ในปี 2025 โดยเฉพาะในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และซัพพลายเชนที่เกี่ยวข้องกับชิ้นส่วนรถยนต์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการผลิตในภูมิภาค นอกจากนี้ คลังสินค้าที่ปรับแต่งได้และฟาร์มคลังสินค้าจะได้รับประโยชน์จากความต้องการของอุตสาหกรรมส่งออก เช่น อาหาร อุปกรณ์การแพทย์ และบรรจุภัณฑ์ ที่ต้องการพื้นที่ในการผลิตและเก็บสินค้า

 

ยิ่งไปกว่านั้น การเติบโตของธุรกิจคลังสินค้าและนิคมอุตสาหกรรมในปีหน้าจะสอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของมูลค่าการอนุมัติโดยการส่งเสริมการลงทุน ซึ่ง Collliers International ประเทศไทย คาดการณ์ว่า ในปี 2025 มูลค่าการอนุมัติสำหรับการส่งเสริมการลงทุนจะเพิ่มขึ้นตามการสนับสนุนนโยบายเศรษฐกิจและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก

 

โดยรวมแล้ว ด้วยการสนับสนุนจากนโยบาย ส่งเสริมจากรัฐบาล และความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างชาติ ทำให้ประเทศไทยยังคงรักษาสถานะเป็นศูนย์กลางการผลิตและโลจิสติกส์ในภูมิภาคอาเซียน นำไปสู่การเติบโตต่อเนื่องของธุรกิจการเช่าคลังสินค้าและนิคมอุตสาหกรรมในตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีหน้าและต่อๆ ไป