ธุรกิจเนื้อหาดิจิทัลเติบโตอย่างรวดเร็ว นักลงทุนแห่สนใจเข้าลงทุนในฮ่องกง

07 มกราคม 2568 เวลา 07:12 น.    873

 

จากข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่าธุรกิจด้านเนื้อหาดิจิทัลในประเทศไทยมีแนวโน้มขยายตัวอย่างมหาศาล โดยมีการจดทะเบียนทุนธุรกิจเกินกว่า 48,000 ล้านบาท ซึ่งประเทศที่สนใจลงทุนในธุรกิจนี้มากที่สุดคือ มาเลเซีย ญี่ปุ่น และฮ่องกง ที่แสดงให้เห็นถึงความนิยมและโอกาสที่เปิดกว้างในตลาดเมืองไทย

 

อัลลามอน ผู้อำนวยการกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวว่า กรมได้มีการวิเคราะห์ธุรกิจที่น่าสนใจและชี้ให้เห็นถึงโอกาสที่ประเทศไทยจะสามารถเทียบเคียงกับตลาดโลก ซึ่งสามารถสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการไทยในการขยายธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ปัจจุบัน ธุรกิจเนื้อหาดิจิทัลกำลังกลายเป็นหนึ่งในธุรกิจที่สำคัญในตลาดโลก เนื่องจากเราได้เข้าสู่ยุคดิจิทัลเต็มตัว โดยรอบตัวเต็มไปด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน สมาร์ททีวี แท็บเล็ต หรือสื่อโฆษณาดิจิทัล ซึ่งสิ่งเหล่านี้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการใช้ชีวิตประจำวันของผู้คน

 

แม้ว่าธุรกิจเนื้อหาดิจิทัลในประเทศไทยจะยังไม่เจริญเติบโตเทียบเท่าบางประเทศ แต่ก็ยังมีอุปสรรคที่ต้องเผชิญอยู่สามประการ ได้แก่: 1) ทุนที่สามารถช่วยส่งเสริมการขยายตัวของธุรกิจ โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายในการจ้างผู้สร้างสรรค์ที่มีทักษะดีๆ รวมถึงต้นทุนการผลิตเนื้อหาดิจิทัล เช่น ค่าซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ที่สูง ซึ่งทำให้ธุรกิจขนาดเล็กไม่สามารถเข้าถึงได้ 2) การขาดแคลนบุคลากร โดยนักสร้างสรรค์ในประเทศไทยมีความสามารถสูง แต่ยังขาดตลาดภายในที่ส่งเสริมการพัฒนาทักษะและ 3) ตลาดส่วนใหญ่ของประเทศไทยเป็นตลาดการส่งออก ซึ่งหมายความว่าการพัฒนาธุรกิจภายในประเทศยังต้องพึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก

 

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันและอนาคตยังมีโอกาสอันมากมายที่รอให้นักลงทุนไทยเข้ามาเป็นผู้นำในตลาดนี้ นอกจากนี้ หน่วยงานรัฐบาลยังได้เห็นถึงความสำคัญของธุรกิจนี้ ทำให้หลายหน่วยงานได้มีความร่วมมือกับภาคเอกชนในการจัดนิทรรศการต่างๆ เพื่อพัฒนาทักษะด้านความคิดสร้างสรรค์ เทคนิคการผลิต และการเผยแพร่ซึ่งตรงตามความต้องการของธุรกิจ รวมถึงการส่งเสริมสไตล์ไทย ซึ่งจะกลายเป็นพลังในตลาดโลกที่ทำให้สะท้อนวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ของประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักในต่างประเทศ

 

ตามข้อมูลจากองค์กรธุรกิจเนื้อหาดิจิทัล (ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2024) พบว่ามีบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด 1,071 แห่ง มีทุนจดทะเบียนรวม 48,600 ล้านบาท โดยแยกเป็นธุรกิจแอนิเมชัน/ตัวละคร 299 แห่ง ทุนจดทะเบียน 14,640 ล้านบาท, บริษัทเกม 257 แห่ง ทุนจดทะเบียน 12,170 ล้านบาท และบริษัทอีบุ๊ค 515 แห่ง ทุนจดทะเบียน 21,250 ล้านบาท

 

ส่วนใหญ่มักตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ กลางและเหนือ สำหรับมูลค่าการลงทุนจากชาวต่างชาติอยู่ที่ 834 ล้านบาท แยกเป็นธุรกิจแอนิเมชัน/ตัวละคร 272 ล้านบาท, เกม 422 ล้านบาท และอีบุ๊ค 139 ล้านบาท โดยสามประเทศที่ลงทุนมากที่สุดในประเทศไทยคือ มาเลเซีย 172 ล้านบาท ญี่ปุ่น 146 ล้านบาท และฮ่องกง 117 ล้านบาท

 

การวิเคราะห์เชิงลึกแสดงให้เห็นว่าธุรกิจอีบุ๊คในประเทศไทยมีศักยภาพสูง โดยคิดเป็น 48% ของตลาดเนื้อหาดิจิทัล รวมทั้งมีความสามารถในการสร้างรายได้และกำไรอย่างต่อเนื่อง ในปี 2023 อุตสาหกรรมอีบุ๊ครวมมีมูลค่า 39,710 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่ผลิตและบริโภคภายในประเทศ ทำให้ถึงรายได้ 31,620 ล้านบาท และกำไร 170 ล้านบาท นั่นเป็นผลมาจากการเปลี่ยนผ่านจากสื่อพิมพ์ไปสู่โลกออนไลน์ที่ทันสมัย

 

นอกจากนี้ ธุรกิจแอนิเมชัน/ตัวละครก็ได้รับความสนใจไม่แพ้กัน เนื่องจากมีนักออกแบบตัวละครไทยที่เริ่มมีชื่อเสียง ด้วยผลงานยอดนิยม เช่น Plaplatootoo ที่ได้แรงบันดาลใจจากปลาแมคเคอเรลในแม่น้ำแม่กลอง ซึ่งบางส่วนมีชื่อเสียงในต่างประเทศและได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจของเล่นศิลปะที่กำลังเติบโต ธุรกิจแอนิเมชัน/ตัวละครยังสามารถขยายไปสู่สินค้าที่มีลิขสิทธิ์เชิงพาณิชย์ต่างๆ ได้อีกด้วย