คาดการณ์ดัชนีการผลิตอุตสาหกรรมปีหน้าขยายตัว 1.5-2.5% สนับสนุนเศรษฐกิจเติบโต

07 มกราคม 2568 เวลา 07:12 น.    1099

คาดการณ์ดัชนีการผลิตอุตสาหกรรมปีหน้าขยายตัว 1.5-2.5% สนับสนุนเศรษฐกิจเติบโต

สำนักงานการเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (Office of Industrial Economics) เผยผลรายงานดัชนีการผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ประจำเดือนพฤศจิกายนปีนี้มีค่าอยู่ที่ 93.41 ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 3.58% คาดว่าในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา ดัชนีการผลิตโดยรวมจะเฉลี่ยหดตัวลงประมาณ 1.78% ขณะที่ในปีหน้าคาดหวังว่าการผลิตในอุตสาหกรรมจะกลับมามีความเคลื่อนไหวอีกครั้ง โดยตั้งเป้าหมายว่า MPI จะเติบโตระหว่าง 1.5-2.5% ซึ่งเป็นผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล การส่งออกผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมและการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีปัจจัยหลายอย่างที่จะทำให้กลุ่มอุตสาหกรรมเหล่านี้เป็นดาวเด่นในปีนี้

นายพัชรเกียรติ พูดถึงการคาดการณ์การเติบโตของดัชนีการผลิตในปีหน้า ซึ่งประมาณว่าจะเติบโตได้ระหว่าง 1.5-2.5% เนื่องจากมีการดำเนินนโยบายและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องจากภาครัฐ อาทิเช่น โครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท มาตรการส่งเสริม Soft Power และการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ สำหรับแผนการอภิปรายระหว่างภาคส่วนสาธารณะและเอกชนเพื่อช่วยสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ รวมถึงการเตรียมการปรับนโยบายการรับมือกับสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งอาจจะมีการนำเสนอแนวทางการคุ้มครองอุตสาหกรรมพลาสติกและเหล็กภายในประเทศออกมาเพิ่มเติม

ในเดือนพฤศจิกายนปีนี้ ดัชนีการผลิตอุตสาหกรรมอยู่ที่ 93.41 ซึ่งลดลงจากปีก่อน 3.58% โดยอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 57.60% ทำให้ดัชนีการผลิตในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 96.25 และเฉลี่ยหดตัว 1.78% ขณะเดียวกัน อัตราการใช้กำลังการผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ 58.64%

หนึ่งในสาเหตุที่ส่งผลเสียต่อภาคการผลิต ได้แก่ การหดตัวอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมยานยนต์ ความชะลอในตลาดในประเทศซึ่งได้สร้างแรงกดดันต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค รวมถึงหนี้ครัวเรือนที่ยังคงอยู่ในระดับสูง นอกจากนี้ยังมีผลกระทบจากการเลือกตั้งในสหรัฐฯ ที่อาจเพิ่มภาษีจากสินค้าสัญชาติจีน ซึ่งอาจทำให้สินค้าจำนวนมากไหลเข้าสู่ตลาดไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอนาคต

ในทางกลับกัน มีปัจจัยเชิงบวกหลายประการที่สนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อาทิเช่น โปรแกรมเงินสด 10,000 บาท โครงการช่วยเกษตรกร และการส่งออกผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (ที่ไม่รวมทองคำ อาวุธ รถถัง หรือเครื่องบินรบ) เติบโตขึ้น 7.5% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว ขณะที่การท่องเที่ยวกำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่องซึ่งช่วยสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง

ในเดือนธันวาคมปีนี้ ระบบการเตือนภัยเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของประเทศไทยส่งสัญญาณเริ่มต้นที่ปกติ โดยเฉพาะปัจจัยในประเทศที่ส่งสัญญาณเริ่มต้นที่ปกติเนื่องจากปริมาณการนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้น หมายความว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลและการเติบโตของภาคการท่องเที่ยวส่งผลดีทำให้ความเชื่อมั่นในภาคอุตสาหกรรมดีขึ้น ขณะเดียวกันสัญญาณจากปัจจัยภายนอกกลับลดระดับความกังวลลง เพราะอุตสาหกรรมในสหภาพยุโรปยังคงมีการขยายตัว ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังสามารถเติบโตได้ แต่ทุกคนยังคงมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับนโยบายการค้าของอนาคต โดยเฉพาะอุตสาหกรรมในญี่ปุ่นยังคงอยู่ในภาวะซบเซา

จากแนวโน้มในปีหน้า อุตสาหกรรมที่คาดว่าจะเติบโตเป็นดาวเด่นนั้นประกอบด้วย 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ 1. การขยายตัวของภาคการท่องเที่ยว 2. มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาล เช่น โครงการช่วยเหลือค่าครองชีพและแผนการออกใบเสร็จอิเล็กทรอนิกส์ง่าย 2.0 (Easy E-Receipt 2.0) และ 3. การขยายตัวของการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมไทย ซึ่งจะสะท้อนผ่านการเติบโตที่เป็นมิตรจากมูลค่าการส่งออก โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์การกลั่นน้ำมัน พลาสติก กระดาษ โลหะ และกลุ่มอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ ซึ่งทั้งหมดนี่เกี่ยวข้องกับห่วงโซ่การผลิตที่มีการเชื่อมโยงภายในประเทศ รวมถึงอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศและฮาร์ดดิสก์ ข้อสำคัญคือผลิตภัณฑ์เหล่านี้มักจะถูกส่งออกไปยังตลาดหลักต่างประเทศโดยเฉพาะสหรัฐฯ ส่งผลให้ในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา สถานการณ์ทางเศรษฐกิจจึงมีการขยายตัวมากกว่า 50% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

ในด้านอุตสาหกรรมที่ส่งผลบวกต่อดัชนีการผลิตเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาประกอบด้วย อุตสาหกรรมเครื่องจักรทั่วไปที่เติบโตขึ้น 24.56% ซึ่งมีส่วนมาจากผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศ สอดคล้องกับแนวโน้มอุณหภูมิของโลกร้อนขึ้น การผลิตสินค้าอาหารกระป๋อง (ทะเล) ขยายตัวเพิ่มขึ้น 31.43% ซึ่งมีสาเหตุมาจากผลิตภัณฑ์ปลาทูน่า การผลิตในอุตสาหกรรมเสื้อผ้า (ยกเว้นร้านตัดเสื้อ) เติบโต 26.58% ซึ่งมีสาเหตุมาจากเสื้อผ้าสตรีและผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กหญิงจากผ้าแบบทอ

ในทางกลับกัน อุตสาหกรรมที่ส่งผลลบต่อดัชนีการผลิตเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์ โดยเฉพาะรถกระบะ รถยนต์นั่งขนาดเล็ก และรถยนต์พลังงานผสมลดลง 27.21% สินค้าปาล์มน้ำมันลดลง 34.54% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลกระทบจากการผลิตน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์และผลผลิตจากต้นปาล์มที่ลดน้อยลงเนื่องจากปัญหาภัยแล้ง นอกจากนี้ อุตสาหกรรมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์หดตัวลง 8.63%