07 มกราคม 2568 เวลา 07:12 น. 764
【รายงานโดยฮวงเซ็ง/กรุงเทพฯ】สำนักงานนโยบายการค้าและยุทธศาสตร์ของกระทรวงพาณิชย์ได้เปิดเผยว่า ประเทศต่างๆ ทั่วโลกกำลังสนับสนุนการผลิตและพัฒนาอุตสาหกรรมแผ่นวงจรพิมพ์ (PCB) โดยจีนได้ดำเนินการตามยุทธศาสตร์ "Made in China" เพื่อส่งเสริมการนวัตกรรมและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิต ขณะที่มาเลเซียได้กำหนดแผนการพัฒนาอุตสาหกรรมในระดับชาติ ขณะที่เวียดนามได้เพิ่มการลงทุน สหรัฐอเมริกาได้ประกาศกฎหมายเพื่อสนับสนุนการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมนี้ ญี่ปุ่นได้มอบเงินสนับสนุนให้กับบริษัทที่พัฒนาเทคโนโลยี รวมทั้งเกาหลีใต้ได้ก่อตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อส่งเสริมการเติบโตในอุตสาหกรรมนี้ รัฐบาลไทยเองก็ได้ยืนยันชัดเจนว่าจะสนับสนุนและมอบสิทธิประโยชน์เพื่อดึงดูดการลงทุนมากขึ้น และแนะนำให้ไทยศึกษานโยบายและแผนงานของประเทศต่างๆ เพื่อนำมาปรับใช้ เพื่อเสริมสร้างประเทศไทยให้เป็นฐานการผลิตและส่งออก PCB ระดับโลก
นายปูพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายการค้าและยุทธศาสตร์ กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศต่างๆ ทั่วโลกสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรม PCB เพราะมันเป็นหัวใจของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเป็นพื้นฐานในการขยายไปสู่อุตสาหกรรมเป้าหมายที่มีมูลค่าเพิ่มสูง โดยแต่ละประเทศได้จัดทำนโยบายและยุทธศาสตร์เพื่อสนับสนุนการผลิตและการพัฒนาอุตสาหกรรม PCB เช่น จีนได้ออกนโยบาย "Made in China 2025" เพื่อส่งเสริมนวัตกรรมและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิต PCB ที่ทันสมัยเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด ในขณะที่มาเลเซียได้ดำเนินแผนอุตสาหกรรมแห่งชาติเพื่อปี 2030 ที่มุ่งหวังพัฒนาอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงการส่งเสริมและพัฒนา PCB เพื่อสนับสนุนกลยุทธ์การพัฒนาส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ที่มีความซับซ้อน (National Semiconductor Strategy: NSS) ในขณะเดียวกัน เวียดนามก็ได้จัดตั้งแผนการสร้างศูนย์นวัตกรรมแห่งชาติและตั้งเขตอุตสาหกรรมไฮเทค 3 แห่ง เพื่อสนับสนุนการลงทุนด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีในอนาคต
นอกจากนี้ หลายๆ ประเทศยังได้ออกกฎหมายและมาตรการสนับสนุนเพื่อกระตุ้นการพัฒนาอุตสาหกรรม PCB อาทิ สหรัฐอเมริกาได้ประกาศใช้กฎหมาย “CHIPS and Science Act of 2022” โดยมีกองทุนการสนับสนุนหลายระดับเพื่อสนับสนุนการผลิต частей и приобретения PCB ภายในประเทศ มีการให้เครดิตภาษีสูงถึง 25% สำหรับการจัดซื้อ PCB จากผู้ผลิตในประเทศ ญี่ปุ่นยังได้จัดสรรงบเพื่อสนับสนุนงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตที่ล้ำสมัย โดยเน้นความร่วมมือกันระหว่างภาคเอกชนและสถาบันการศึกษา เพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ขณะที่เกาหลีใต้ได้สร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษซึ่งมอบสิทธิประโยชน์ทางภาษีและเงินสนับสนุน พร้อมทั้งยังปรับปรุงกระบวนการทางกฎหมายให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เป็นการส่งเสริมการลงทุนจากผู้ประกอบการภายในและต่างประเทศ
สำหรับประเทศไทยจุดที่สำคัญคือต้องเร่งพัฒนาอุตสาหกรรม PCB ทั้งระบบ โดยรัฐบาลจำเป็นต้องสนับสนุนและส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรม PCB ภายในประเทศ สำนักงานส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้บรรจุการผลิต PCB ในยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุนระยะปี 2023-2027 โดยมอบสิทธิประโยชน์เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ อาทิ การยกเว้นภาษีนำเข้าสำหรับวัตถุดิบ พร้อมทั้งการอนุญาตให้ถือครองที่ดินและขอใบอนุญาตดำเนินธุรกิจ นอกจากนี้ยังมีการส่งเสริมการลงทุนในธุรกิจต่างๆ ที่สนับสนุนอุตสาหกรรม PCB โดยการจัดกิจกรรมเชื่อมต่อห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรม และเปิดโอกาสให้ธุรกิจไทยเพื่อการผลิตชิ้นส่วนและวัตถุดิบสำหรับ PCB รวมถึงความร่วมมือกับสถาบันการศึกษา ผ่านกิจกรรมจับคู่การทำงาน (Job Matching) และการพัฒนาทักษะ (Upskill) รวมถึงการปรับทักษะ (Reskill) เพื่อพัฒนาศักยภาพแรงงานที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมนี้
ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์นั้นได้มีบทบาทในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย โดยใช้การสนับสนุนทางนโยบายเพื่อทำให้โครงสร้างการส่งออกมีความทันสมัย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีอย่าง PCB พร้อมทั้งการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ที่จะช่วยดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ในขณะเดียวกันก็ต้องเตรียมข้อมูลเพื่อสนับสนุนการพัฒนาการค้าและส่งเสริมให้ธุรกิจไทยพัฒนาศักยภาพของตนเองให้สามารถแข่งขันในระดับนานาชาติ
“จากแนวโน้มความต้องการของผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ และการพัฒนาของเทคโนโลยีอัจฉริยะและปัญญาประดิษฐ์ที่มีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทั้งภาครัฐและเอกชนไทยต้องมีการดำเนินนโยบายต่างๆ เพื่อเพิ่มโอกาสให้กับอุตสาหกรรม PCB ทั้งนี้ควรนำมาตรการที่ประสบความสำเร็จจากประเทศอื่นมาปรับใช้ในประเทศไทย เพื่อสนับสนุนให้บริษัทไทยเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทาน PCB ภายในประเทศ รวมถึงการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและพัฒนาทักษะแรงงานให้ตอบสนองความต้องการ เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งจะทำให้ไทยกลายเป็นฐานการผลิต PCB ที่สำคัญ ส่งผลให้มีโอกาสเพิ่มพูนการพัฒนาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และยังสามารถขยายโอกาสไปยังอุตสาหกรรมอื่นๆ ทำให้เกิดการเพิ่มมูลค่าการส่งออกและส่งเสริมให้ไทยกลายเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีในระดับโลก” นายปูพงษ์กล่าว
PCB เป็นองค์ประกอบพื้นฐานสำคัญในวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นเส้นทางในการส่งสัญญาณไฟฟ้าสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เช่น คาปาซิเตอร์, เรซิสเตอร์, ไดโอด และเซมิคอนดักเตอร์ โดย Precedence Research ผู้ให้ข้อมูลทางการตลาดที่เชื่อถือได้รายงานว่า PCB สามารถทำให้อุปกรณ์ต่างๆ เชื่อมต่อกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยคาดการณ์ว่าความต้องการ PCB จะเติบโตขึ้นเฉลี่ยปีละ 5.8% และจะมีมูลค่าถึง 152.5 พันล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2033 เนื่องจากความต้องการส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ในอุตสาหกรรมยานยนต์ รวมทั้งการพัฒนาของเทคโนโลยีระบบอัจฉริยะและปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI)
ในปีที่ผ่านมา จีนเป็นประเทศที่มีมูลค่าการส่งออก PCB สูงที่สุดในโลก มีมูลค่า 175.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาที่ 4.62% ส่วนประเทศไทยมีอันดับกระโดดเข้าเป็นประเทศที่ 7 ที่มีการส่งออก PCB สูงสุดในโลกและเป็นอันดับ 2 ของอาเซียน โดยมีมูลค่าการส่งออกที่ 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 1.86% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา