ประธานาธิบดีอาเซอร์ไบจาน อิลฮาม อาลีเยฟ ได้แสดงความคัดค้านอย่างรุนแรงต่อพันธมิตรดั้งเดิมอย่างรัสเซียในวันที่ 29 โดยเรียกร้องให้มีการรับรู้ถึงการยิงโจมตีเครื่องบินสายการบินอาเซอร์ไบจานที่ประสบอุบัติเหตุ นอกจากนี้ เขายังได้กล่าวหามอสโกว่าเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จและพยายามปกปิดสาเหตุที่ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมทางอากาศครั้งนี้ พร้อมทั้งเสนอให้มีการขอโทษ การลงโทษผู้กระทำความผิด และค่าชดเชยต่าง ๆ

ตามที่รายงานโดยสำนักข่าวกลาง (CNA) อ้างอิงข่าวจากเอเอฟพี เครื่องบินโดยสารรุ่น Embraer 190 ของสายการบินอาเซอร์ไบจานประสบอุบัติเหตุตกลงที่ประเทศคาซัคสถานเมื่อวันที่ 25 ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 38 คนจากทั้งหมด 67 คนบนเครื่องบิน อาลีเยฟได้ให้สัมภาษณ์แก่สื่อของรัฐที่สนามบินในกรุงบากูเมื่อ 4 วันหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว เกี่ยวกับข้อกล่าวหาที่เขายื่นไว้

เจ้าหน้าที่จากอาเซอร์ไบจานเคยระบุว่า เครื่องบินที่ประสบอุบัติเหตุได้ถูกโจมตีโดยระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซียในขณะที่พยายามจะลงจอดที่กรุงโกรอซนี เมืองหลวงของสาธารณรัฐเชชเนีย ทางตอนใต้ของรัสเซีย

ในวันที่ 29 คาซัคสถานได้ประกาศว่ากำลังส่ง "กล่องดำ" ของเครื่องบินที่ประสบอุบัติเหตุไปยังบราซิลเพื่อการตรวจสอบและการสอบสวนต่อไป

การแสดงความตำหนิอย่างตรงไปตรงมาของอาลีเยฟต่อมอสโกเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ เนื่องจากเมื่อวันที่ 28 เขาเพิ่งโทรศัพท์พูดคุยกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย

คำแถลงที่เผยแพร่จากเครมลินไม่กล่าวถึงว่าปูตินยอมรับความรับผิดชอบเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

อาลีเยฟได้บอกกับสถานีโทรทัศน์ของประเทศว่า "ข้อเท็จจริงคือ เครื่องบินเชิงพาณิชย์จากอาเซอร์ไบจานโดนโจมตีในอากาศเหนือรัสเซียใกล้กรุงโกรอซนี ทำให้เครื่องบินเกือบจะขาดการควบคุม" อย่างไรก็ตาม เขายังมีความกังขาต่อมอสโกที่ดูเหมือนจะพยายามปิดบังสาเหตุของการตกครั้งนี้ และได้เรียกร้องให้รัสเซียรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าว

ตามคำแถลงจากเครมลิน กล่าวถึงว่า ในเวลาที่เกิดเหตุการณ์กรุงโกรอซนี เมืองมอสโก และเมืองฟลาดิกาฟคาซ์กำลังเผชิญการโจมตีจากโดรนของยูเครน และระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซียกำลังต่อสู้กับการโจมตีเหล่านั้น