ตามรายงานข่าวจากสำนักข่าวไทย เมื่อวันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา ตำรวจแห่งชาติไทยภายใต้การนำของนายอาเลน รองหัวหน้าหน่วยปราบปรามอาชญากรรมเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานอุตสาหกรรมของจังหวัดตรัง ทำการตรวจค้นโรงงานรีไซเคิลเก่าที่ตั้งอยู่ในจังหวัดตรัง ซึ่งพบว่าโรงงานดังกล่าวดำเนินการโดยไม่มีการอนุมัติในการจัดตั้งโรงงานคัดแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึงสถานที่เกิดเหตุ พบหญิงสาวชื่อจุน ซึ่งอ้างว่าเป็นพนักงานของโรงงานและได้พาเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบภายในโรงงาน โดยในโรงงานพบชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และแผงวงจรไฟฟ้าเก่าสะสมอยู่ทั่วพื้นที่รวมกว่า 1,200 ตัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการยึดของกลางทั้งหมด เนื่องจากมีความผิดฐาน “ตั้งโรงงานโดยไม่มีใบอนุญาตและถือครองวัสดุอันตรายประเภทที่ 3 อย่างผิดกฎหมาย”

นายอาเลนกล่าวว่า ในวันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา ตำรวจพบรถบรรทุกสองคันถูกทิ้งไว้ข้างทางในจังหวัดปาจีนบุรีซึ่งบรรทุกขยะอิเล็กทรอนิกส์ ตำรวจจึงได้จับกุมคนขับรถซึ่งให้ปากคำว่ามีโรงงานไม่เปิดเผยชื่อได้เรียกร้องให้เขานำขยะอิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้จากปาจีนบุรีไปยังโรงงานในจังหวัดตรัง

ต่อจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบและยืนยันที่ตั้งของโรงงานที่มีการปล่อยขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างผิดกฎหมาย จึงได้รายงานให้หน่วยงานอุตสาหกรรมในจังหวัดตรังทราบ เพื่อตรวจสอบร่วมกันและเก็บรวบรวมหลักฐานที่เกี่ยวข้อง

ระหว่างการสอบสวน คุณจุนได้ให้ข้อมูลว่า เจ้าของโรงงานเป็นชาวจีนชื่อ “จาง” ซึ่งขณะนี้อยู่ต่างประเทศ โดยเธอไม่ทราบแหล่งที่มาของขยะอิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้ ตำรวจจึงได้รายงานสถานการณ์นี้ไปยังสถานีตำรวจในจังหวัดตรัง เพื่อเตรียมดำเนินคดีทางกฎหมายกับเจ้าของโรงงานในฐานะผู้กระทำผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับการตั้งโรงงานโดยไม่มีใบอนุญาตและการถือครองวัสดุอันตรายอย่างผิดกฎหมาย

(แหล่งข่าว: matichon)