ตามรายงานข่าวจากสำนักข่าวไทย ศวันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทยเริ่มคลี่คลายขึ้น ส่งผลให้ภาคการท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวอย่างชัดเจน อุตสาหกรรมโรงแรมจึงกลายเป็นจุดสนใจที่สำคัญสำหรับการลงทุนในปี 2024 ประเทศไทยคาดว่าจะต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมากกว่า 35 ล้านคน และคาดว่าในปี 2025 จำนวนนักท่องเที่ยวจะพุ่งทะลุ 40 ล้านคน ซึ่งจะสร้างโอกาสการเติบโตอย่างมหาศาลในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและโรงแรมของไทย

การเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศ เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันให้ตลาดโรงแรมในประเทศไทยกลับมาฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง ในปี 2024 อัตราการเข้าพักเฉลี่ยของโรงแรมในประเทศได้พุ่งขึ้นถึง 73.61% โดยโรงแรมบางแห่งมีอัตราการเข้าพักเกิน 80% นักท่องเที่ยวจากอินเดีย มาเลเซีย จีน เกาหลีใต้ และรัสเซียเป็นแหล่งตลาดหลักที่ส่งผลต่อการเติบโตของความต้องการโรงแรม

นายปฏิพัทธ์ ใจซื่อ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและสื่อสารของบริษัท CBRE ประเทศไทย เปิดเผยว่า การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมโรงแรมช่วยกระตุ้นให้เกิดกิจกรรมการซื้อขายโรงแรมต่างๆ ในช่วงสามไตรมาสแรกของปี 2024 ได้มีการทำธุรกรรมโรงแรมจำนวน 12 รายการ รวมจำนวนห้องพักกว่า 3,199 ห้อง มูลค่ารวมของการซื้อขายอยู่ที่ 16,778 ล้านบาท โดยทุกการทำธุรกรรมเกิดขึ้นในเมืองท่องเที่ยวหลัก ๆ อาทิเช่น ภูเก็ต กรุงเทพฯ เชียงใหม่ และเกาะสมุย ขณะนี้ยังมีหลายดีลโรงแรมอยู่ระหว่างการเจรจา คาดว่าตลอดปี 2024 มูลค่าการซื้อขายจะเพิ่มขึ้นถึง 18,000 ล้านบาท

สำหรับแนวโน้มในปี 2025 อุตสาหกรรมโรงแรมไทยยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง การเข้าเยี่ยมเยียนของนักท่องเที่ยวต่างชาติ การสนับสนุนจากนโยบายรัฐบาล และสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศที่มีความเสถียร ล้วนเป็นปัจจัยที่ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่างชาติ นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มที่จะกระตุ้นอัตราการเข้าพักและราคาเฉลี่ยต่อคืนของโรงแรมให้เพิ่มสูงขึ้น

นายปฏิพัทธ์ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ในไตรมาสที่สามของปี 2024 จำนวนห้องพักในกรุงเทพมหานครได้แตะ 109,439 ห้อง ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.3 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้า การกลับมาของกิจกรรมใหญ่ระดับนานาชาติและความต้องการทำงานออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ตลาดโรงแรมในกรุงเทพฯ ฟื้นตัว และราคาในโรงแรมหรูได้ปรับตัวสูงขึ้นกว่าในช่วงก่อนเกิดโรคระบาด

นอกจากนี้ยังมีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับการซื้อขายโรงแรมในไทยว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มูลค่าการซื้อขายโรงแรมทั้งหมดในประเทศได้สะสมถึง 120,900 ล้านบาท โดยมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยในแต่ละปีอยู่ที่ 12,090 ล้านบาท ในช่วงปี 2017 และ 2018 การเติบโตของนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ดันมูลค่าการซื้อขายต่อปีให้สูงเกิน 20,000 ล้านบาท แนวโน้มนี้ได้ดึงดูดนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศให้ให้ความสนใจอย่างมาก โดยเมืองท่องเที่ยวหลัก ๆ เช่น กรุงเทพ ภูเก็ต สมุย พัทยา กระบี่ และเชียงใหม่ กลายเป็นจุดหมายการลงทุนที่ได้รับความนิยม

ตลาดโรงแรมไทยยังคงเป็นที่สนใจอย่างสูงจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ ที่มีการซื้อขายโรงแรมบ่อยครั้ง นายปฏิพัทธ์กล่าวเสริมว่า “เสน่ห์ของตลาดโรงแรมไทยยังคงมีความแข็งแกร่ง โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวหลัก นักลงทุนมีความเชื่อมั่นในศักยภาพการพัฒนาระยะยาวของพื้นที่นี้”

การฟื้นตัวที่แข็งแกร่งของอุตสาหกรรมโรงแรมและกระแสการลงทุนที่ยังคงต่อเนื่อง ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงเสน่ห์ของประเทศไทยในฐานะแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก แต่ยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจในประเทศอีกด้วย ด้วยการเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มมากขึ้น ตลาดโรงแรมไทยมีแนวโน้มที่จะยังคงเป็นหนึ่งในสาขาการลงทุนที่น่าสนใจที่สุดในภูมิภาคนี้