30 ธันวาคม 2567 เวลา 14:08 น. 1130
หลายคนโดยเฉพาะผู้หญิงอาจเคยประสบปัญหาที่น่าอายเกี่ยวกับการรั่วไหลของปัสสาวะในระหว่างการทำกิจกรรมต่างๆ แพทย์จึงได้แนะนำวิธีการแก้ไขปัญหานี้ โดยสามารถทำได้ด้วยการฝึกฝนระบบการทำงานของกระเพาะปัสสาวะและการทำให้บริเวณท้องส่วนล่างอบอุ่น ซึ่งถือเป็นวิธีที่ช่วยบรรเทาความรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำได้มาก.
เมื่อฤดูหนาวมาถึง อุณหภูมิที่ลดต่ำทำให้หลายคนรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำบ่อยขึ้น ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ แต่หากมีอาการอยากปัสสาวะเกินกว่าปกติก็อาจหมายความว่าคุณกำลังประสบปัญหาการปัสสาวะบ่อย (urinary frequency) ซึ่งอาจสร้างความไม่สะดวกในการใช้ชีวิตประจำวัน แม้ว่าอาการนี้จะไม่ถึงขั้นอันตรายถึงชีวิต แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านโรคระบบทางเดินปัสสาวะชื่อดังจากญี่ปุ่น นายแพทย์อิเซโร เท็ตสึยะ (伊勢呂哲也) ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการปรับปรุงปัญหานี้.สำหรับประชากรที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป พบว่ามีจำนวนถึงครึ่งหนึ่งที่มีอาการปัสสาวะบ่อย แต่ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักไม่เข้ารับการตรวจรักษา.
นายแพทย์อิเซโร กล่าวว่า อาการปัสสาวะบ่อยสามารถดีขึ้นได้ด้วยตัวเองในหลายกรณี และแนะนำวิธีการ 6 วิธี ที่สามารถช่วยปรับปรุงการทำงานของกระเพาะปัสสาวะได้ แต่หากมีอาการแทรกซ้อน เช่น มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ, นิ่วในทางเดินปัสสาวะ หรือ ต่อมลูกหมากโต ก็จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาโดยแพทย์.
1. การฝึกฝนกระเพาะปัสสาวะ (Bladder Training)เป็นการฝึกเพื่อลดจำนวนครั้งในการเข้าห้องน้ำ โดยปกติแล้วกระเพาะปัสสาวะสามารถเก็บปัสสาวะได้ประมาณ 200 มิลลิลิตร แต่หลายคนมักจะรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำเมื่อกระเพาะเก็บได้เพียง 50 มิลลิลิตร การเพิ่มช่วงเวลารอเมื่อรู้สึกปวดปัสสาวะ (ประมาณ 5-10 นาที) จะสามารถช่วยให้กระเพาะปัสสาวะสามารถทำงานได้ดีขึ้น.
2. การออกกำลังกายให้กล้ามเนื้อพื้นฐานอุ้งเชิงกราน (Pelvic Floor Exercises)การบริหารกล้ามเนื้อพื้นฐานด้านล่างจะช่วยลดการกระตุ้นบริเวณกระเพาะ ระหว่างวันควรทำอย่างน้อย 3 เซ็ต ๆ ละ 10 ครั้ง เพื่อฝึกควบคุมการปัสสาวะ.
3. การควบคุมน้ำหนัก (Weight Management)การศึกษาพบว่าผู้ที่มีดัชนีมวลกาย (BMI) เกิน 27 จะมีความเสี่ยงในการปัสสาวะบ่อยมากกว่าคนทั่วไปถึง 1.5 เท่าเนื่องจากมีไขมันในช่องท้องที่อาจกดทับกระเพาะปัสสาวะ ทำให้เกิดอาการอยากปัสสาวะบ่อย.
4. การทำให้ท้องอบอุ่น (Keeping the Abdomen Warm)ในช่วงฤดูหนาว ความหนาวเย็นทำให้มีอาการอยากเข้าห้องน้ำมากขึ้น การใช้เจลประคบอุ่น หรือผ้าห่มอบอุ่นบริเวณท้องสามารถช่วยบรรเทาอาการนี้ได้.
5. การปรับการดื่มน้ำ (Hydration Management)การดื่มน้ำมากเกินไปย่อมทำให้ปริมาณปัสสาวะเพิ่มขึ้น แต่หากดื่มน้อยเกินไปก็อาจนำไปสู่อาการขาดน้ำ การตรวจสอบสีของปัสสาวะเป็นวิธีที่ดีในการทราบระดับน้ำในร่างกาย โดยสีที่เหมาะสมคือ "สีเหลืองอ่อน" ส่วนสีเข้มแสดงว่าร่างกายขาดน้ำและสีใสเกินไปบ่งบอกว่าดื่มน้ำมากเกินไป.
6. หลีกเลี่ยงการบริโภคคาเฟอีนและอาหารรสเผ็ด (Avoid Caffeine and Spicy Foods)สารคาเฟอีนและแอลกอฮอล์มีผลในเชิงขับปัสสาวะทำให้เกิดอาการปัสสาวะบ่อย นอกจากนี้ สาร Capsaicin ในพริกก็สามารถกระตุ้นเยื่อบุในกระเพาะปัสสาวะ ดังนั้นควรลดการบริโภคอาหารรสเผ็ดเพื่อบรรเทาอาการ.